เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี มุน แจ-อิน เตือนเกาหลีใต้อาจต้องปรับมาตรการป้องกันโควิดสู่ระดับสูงสุด หลังจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งทุบสถิติสองวันซ้อน ด้านญี่ปุ่นพบเคสใหม่รายวันทะลุ 3,000 คนเป็นครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ (13 ธ.ค.)
ระหว่างการเป็นประธานการประชุมฉุกเฉินที่ศูนย์รับมือภัยพิบัติและความปลอดภัยเมื่อวันอาทิตย์ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับจากเดือนกุมภาพันธ์ มุนเรียกร้องให้เฝ้าระวังและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมการระบาดระลอกสามของไวรัสโคโรนา ไม่เช่นนั้นอาจถึงจุดวิกฤตที่จะต้องปรับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมสู่ระดับ 3 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุด
ปัจจุบัน เขตเมืองหลวงโซลและปริมณฑล ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ครึ่งหนึ่งของประชาชนทั้งหมด 52 ล้านคนทั่วประเทศ อยู่ภายใต้มาตรการจำกัดระดับ 2.5 ห้ามการรวมกลุ่มเกิน 50 คน และห้ามนั่งกินอาหารในร้านหลังเวลา 21.00 น.
จากที่เคยควบคุมการระบาดได้เมื่อต้นปี ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1,030 คน เพิ่มขึ้นจาก 950 คนเมื่อวันเสาร์ (12) รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 42,766 คน เสียชีวิต 580 คน
สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีแจกแจงว่า ในจำนวนเคสใหม่วันอาทิตย์ 1,002 คนเป็นการติดเชื้อในท้องถิ่น
มุนสำทับว่า เกาหลีใต้อยู่ในช่วงวิกฤตอีกครั้งและจำเป็นต้องทุ่มเทศักยภาพทั้งหมดและใช้อำนาจของรัฐบาลเพื่อควบคุมการระบาด
มาตรการจำกัดระดับ 3 หมายถึงการบังคับใช้คำสั่งล็อกดาวน์ครั้งแรกของเกาหลีใต้ โรงเรียนจะต้องเปลี่ยนไปสอนระบบออนไลน์ บริษัทต้องอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน ยกเว้นตำแหน่งที่จำเป็นเท่านั้นที่ต้องไปสำนักงาน และห้ามรวมกลุ่มเกิน 10 คน
รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมเพิ่มเตียงผู้ป่วยอีกราว 10,000 เตียงภายใน 2-3 สัปดาห์ และจะจ่ายเงินเพิ่มเดือนละ 3 ล้านวอน (2,748 ดอลลาร์) เป็นการชั่วคราวให้พยาบาลบางคนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อช่วยผ่อนภาระของโรงพยาบาลทั่วประเทศ
พัค นึง-ฮู รัฐมนตรีสาธารณสุข แถลงข่าวสั้นๆ ที่ถ่ายทอดทางทีวีหลังการประชุมฉุกเฉินว่า รัฐบาลจะจัดหาเตียงผู้ป่วยเพิ่มกว่า 10,000 เตียงในช่วง 3 สัปดาห์หน้า ภายใต้สมมติฐานว่า จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มวันละ 1,000 คนโดยประมาณในช่วง 20 วันข้างหน้า
เกาหลีใต้เคยได้รับการยกย่องจากความสำเร็จในการควบคุมการระบาดโดยไม่ต้องล็อกดาวน์ แต่อาศัยการติดตามผู้สัมผัสและการตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก หลังพบผู้ติดเชื้อรายแรกในเดือนมกราคม
เมื่อวันเสาร์ มุนสั่งให้ตำรวจ ทหาร แพทย์ของรัฐบาลร่วมกันสกัดการระบาดโดยระบุว่าเป็น “สถานการณ์ฉุกเฉิน”
ส่วนที่ญี่ปุ่น จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในวันอาทิตย์เพิ่มขึ้น 3,030 คน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 3,000 คน ขณะที่รัฐบาลยังคงชะลอการบังคับใช้มาตรการเข้มงวดขึ้นเนื่องจากกังวลว่า จะเกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจก่อนถึงเทศกาลวันหยุด
กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ในจำนวนเคสใหม่ 3,030 คน มี 621 คนอยู่ในโตเกียว ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 177,287 คน เสียชีวิต 2,562 คน
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ เพิ่มภาระให้โรงพยาบาล อีกทั้งส่งผลกระทบต่อการรักษาผู้ป่วยโรคอื่นๆ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ยังเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการต่างๆ เช่น ระงับการเดินทางออกนอกเมือง และขอให้ห้างร้านปิดเร็วขึ้น
การสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า คะแนนความนิยมในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ลดลงราว 20% จากราว 70% ระหว่าง 3 เดือนแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนเกี่ยวกับการจัดการโรคระบาด
ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ญี่ปุ่นออกมาตรการฉุกเฉินตามความสมัครใจ และสามารถควบคุมการระบาดได้โดยไม่ต้องล็อกดาวน์ ทว่า ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การกลับมาระบาดรอบใหม่ภายใต้ฤดูหนาวที่อากาศแห้งอาจทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้ยากขึ้น