เอเจนซีส์ – อังกฤษล่าสุดออกคำสั่งไม่ให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ป้องกันโควิด-19แก่ผู้ป่วยภูมิแพ้ขั้นร้ายแรงเกิดขึ้นหลังมีผู้ป่วย 2 รายมีปฎิกริยาหลังการฉีด โดยผู้เข้ารับจะต้องถูกสอบถามว่าแพ้ส่วนประกอบในวัคซีนหรือไม่ก่อนฉีด
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(9 ธ.ค)ว่า ผู้กำกับยาอังกฤษออกมาเตือน ไม่ให้สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ NHS ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้ขั้นรุนแรง เกิดขึ้นหลังพบเจ้าหน้าที่การแพทย์ NHS จำนวน 2 คนที่ได้รับการฉีดในวันพุธ(9)เพื่อป้องกันไวรัสโคโรนามีปฏิกริยาผลข้างเคียงหลังรับวัคซีนแล้ว
ทั้งนี้พบว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ต่างมี EpiPen (adrenaline autoinjector)ซึ่งใช้รักษาอาการแพ้รุนแรง โดย EpiPen จะไปเร่งสารอะดรีนาลินให้ต่อสู้กับปฎิกริยาการแพ้ซึ่งเกิดขึ้นในบางกลุ่ม เป็นต้นว่า การแพ้ถั่ว
ข้อมูลใบปลิวให้ข้อมูลกับผู้ป่วยสำหรับวัคซีนไฟเซอร์ได้ระบุว่า ไม่สมควรฉีดวัคซีนให้กับบุคคลที่เคยมีการแพ้สารที่อยู่ในวัคซีน ทำให้เกิดคำถามต่อ NHS ถึงการคัดเลือกบุคลากรที่จะมาฉีดวัคซีนโควิด-19
โดยในไบปลิวได้กล่าวว่า “อาการป่วยจากผลข้างเคียงของวัคซีนอาจรวมถึง ผื่นแดงคัน หายใจถี่หอบ และเกิดการบวมบริเวณใบหน้าหรือลิ้น”
อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่เปิดเผยในรายละเอียดสำหรับสถานพยาบาลและเจ้าหน้าที่ซึ่งให้วัคซีนไฟเซอร์แก่เจ้าหน้าที่ NHS ทั้งสอง แต่ทาง NHS ได้ออกมายืนยันว่ามีผู้เข้ารับการฉีด 2 รายได้รับผลข้างเคียงจริง และกล่าวว่านับตั้งแต่นี้ต่อไปได้มีคำเตือนออกไปยังเจ้าหน้าที่ NHS ทุกคนไม่ให้ฉีดวัคซีป้องกันโควิด-19 แก่ผู้ที่เคยมีประวัติการแพ้มาก่อน
ศาสตราจารย์ สตีเฟน โพวิส (Stephen Powis) ผู้อำนวยการการแพทย์แห่งชาติของ NHS อังกฤษได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า
“เหมือนเช่นเป็นโดยปกติสำหรับวัคซีนใหม่ ทาง MHRA แนะนำคำเตือนเบื้องต้นในกรณีที่ผู้เข้ารับการฉีดซึ่งเคยมีประวัติการแพ้อย่างรุนแรง ไม่อนุญาตให้ฉีดวัคซีนนี้(วัคซีนโควิด-19ของบริษัทยาไฟเซอร์) เกิดขึ้นหลังพบผู้เข้ารับการฉีด 2 คนซึ่งเคยมีประวัติการแพ้อย่างรุนแรงได้แสดงปฎิกริยาผลข้างเคียงออกมาเมื่อวานนี้”
และในแถลงการณ์ยังกล่าวว่า “คนทั้งคูในเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวอย่างเป็นไปได้ด้วยดี”
คำแนะนำของ MHRA ชี้ว่าบุคคลที่เคยมีประวัติการแพ้อย่างเด่นชัดต่อวัคซีน ยา หรืออาหาร ไม่สมควรที่จะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์
และยังกล่าวไปว่าอุปกรณ์เครื่องช่วยชีวิตนั้นจำเป็นต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลาสำหรับการฉีดวัคซีนทุกครั้ง และการแจกวัคซีนจะกระทำได้ในสถานที่เตรียมความพร้อมสำหรับมาตรการกู้ชีพในกรณีที่ฉุกเฉิน