พรรครัฐบาลของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เห็นพ้องในวันจันทร์ (30 พ.ย.) จะร่างแผนที่จะจำกัดเสรีภาพในการแชร์ภาพระบุตัวตนเจ้าหน้าที่ใหม่ทั้งหมด หลังเจอชุมนุมใหญ่ประท้วงต่อต้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจเมื่อช่วงสุดสัปดาห์
ประชาชนมากกว่า 133,000 คน ในนั้นแค่ในกรุงปารีสก็ปาเข้าไป 46,000 คน ออกมาชุมนุมต่อต้านร่างกฎหมายดังกล่าวและสนับสนุนเสรีภาพการแสดงออกเมื่อวันเสาร์ (28 พ.ย.)
การชุมนุมล่าสุดมีขึ้นหลังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอชายผิวสีถูกตำรวจ 3 นาย บุกทำร้ายอย่างทารุณภายในสตูดิโอของเขาเอง ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งกระตุ้นให้ มาครง ออกมาประณามว่าเป็นเรื่องน่าอดสูสำหรับฝรั่งเศส
มาตราที่ 24 ของร่างกฎหมายฉบับใหม่ ระบุว่า การเผยแพร่ภาพตำรวจขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเสียหายต่อร่างกายหรือจิตใจของเจ้าหน้าที่ ถือเป็นความผิดอาญา ซึ่งมันจุดชนวนความโกรธเคืองแก่ประชาชน สื่อมวลชนและไม่เว้นแม้กระทั่งพวกสมาชิกฝ่ายซ้ายในพรรคของมาครงเอง
สมาชิกซ้ายกลางจำนวนมากภายในพรรคของมาครง แสดงความไม่พอใจต่อสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าประธานาธิบดีเริ่มหันหน้าสู่แนวคิดอนุรักษนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
“เราจะเสนอมาตรา 24 เวอร์ชันใหม่ และจะยื่นเวอร์ชันใหม่เพื่อขอความเห็นชอบ” คริสโตเฟอร์ คาสตาแนร์ แกนนำพรรคสาธารณรัฐก้าวหน้า Republic on the Move (REM) ของประธานาธิบดีมาครง ในสภาผู้แทนราษฏร กล่าวระหว่างแถลงข่าว
ทั้งนี้ ตามมาตรา 24 ไม่ได้ห้ามแชร์ภาพภาพของตำรวจโดยสิ้นเชิง แต่มันถือเป็นความผิดทางอาญา โดยใครก็ตามที่แชร์ภาพของตำรวจด้วยเจตนาก่อให้เกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่ จะถูกลงโทษจำคุก 1 ปีและปรับเงิน 45,000 ยูโร (ราว 1.6 ล้านบาท)
พวกผู้สื่อข่าวของฝรั่งเศสบอกว่า มาตรานี้มีความคลุมเครืออย่างมาก และอาจส่งผลกระทบที่น่ากลัวต่อประชาชนที่ต้องการตีแผ่พฤติกรรมโหดเหี้ยมของตำรวจ
คำแถลงของ คาสตาแนร์ มีขึ้นหลังจาก มาครง ประะชุมฉุกเฉินกับบรรดาแกนนำเสียงข้างมากในรัฐสภา ที่ทำเนียบรัฐบาลก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (30 พ.ย.) รวมถึงหารืออย่างเข้มข้นกับ เจอราลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีมหาดไทย
เจ้าหน้าที่บอกว่า จะมีการยื่นเวอร์ชันใหม่ของมาตรา 24 ในภายหลัง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อไหร่ ขณะที่ร่างกฎหมายซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เวลานี้ถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในวุฒิสภานี้เอง พวกแนวคิดอนุรักษนิยมครองเสียงข้างมากอยู่ ไม่ใช่พรรคของมาครง
(ที่มา : รอยเตอร์)
