รัฐบาลอังกฤษประกาศวันนี้ (30 พ.ย.) ว่า บริษัทโทรคมนาคมทุกแห่งจะต้องหยุดติดตั้งอุปกรณ์โครงข่าย 5G ของ “หัวเว่ย เทคโนโลยีส์” ตั้งแต่เดือน ก.ย. ปี 2021 เป็นต้นไป ซึ่งย้ำให้เห็นถึงแผนอันเป็นรูปธรรมที่จะกีดกันยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมจีนออกจากระบบสื่อสารความเร็วสูงของเมืองผู้ดี
ก่อนหน้านี้ อังกฤษได้มีคำสั่งถอดอุปกรณ์หัวเว่ยทั้งหมดออกจากโครงข่าย 5G ภายในสิ้นปี 2027 เพื่อตอบสนองข้อกังวลของชาติพันธมิตร โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งตราหน้าหัวเว่ยว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง
จีนได้กล่าวตำหนิการตัดสินใจของอังกฤษ ขณะที่หัวเว่ยก็ออกมาแสดงความผิดหวังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังรัฐบาลลอนดอนออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดระวางโทษปรับถึง 100,000 ปอนด์ (ราว 4 ล้านบาท) สำหรับบริษัทที่ละเมิดคำสั่งแบนหัวเว่ย
ประกาศจากรัฐบาลอังกฤษมีขึ้นก่อนที่รัฐสภาจะเปิดอภิปรายร่างกฎหมายโทรคมนาคมใหม่ และกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนสำหรับการเลิกใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย
“ผมจะวางแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนสำหรับการถอดผู้จำหน่ายที่มีความเสี่ยงสูงออกจากเครือข่าย 5G ของเรา” โอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลของอังกฤษ ระบุในถ้อยแถลง “เราจะมีการจำแนกแยกแยะและสั่งแบนอุปกรณ์สื่อสารที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ”
รัฐบาลอังกฤษยังเปิดตัวยุทธศาสตร์เพิ่มความหลากหลายในระบบห่วงโซ่อุปทาน 5G ซึ่งจะใช้เม็ดเงินลงทุนเบื้องต้น 250 ล้านปอนด์ และจะมีการประสานกับ NEC ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีของญี่ปุ่นเพื่อตั้งสถาบันวิจัยใหม่ๆ ขึ้นมา
เมื่อเดือน ก.ค. รัฐบาลอังกฤษได้สั่งแบนการจัดซื้ออุปกรณ์ 5G ของหัวเว่ยเพิ่มเติมหลังสิ้นปีนี้ โดยอ้างมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเทคโนโลยีและอุปทานชิป ขณะที่หัวเว่ยวิจารณ์ว่าคำสั่งเช่นนี้เกี่ยวเนื่องกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ มากกว่าความมั่นคง
ที่มา: รอยเตอร์