เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - วันแบล็กฟรายเดย์ในสหรัฐฯ ปีนี้แตกต่างจากปีอื่นๆ ที่ผ่านมาเนื่องจากปัญหาโรคโควิด-19 ระบาดและมาตราการเว้นระยะห่างทางสังคม ส่งผลทำให้ยอดการขายวันแบล็กฟรายเดย์ (27 พ.ย.) ตกลงไปถึง 52% หลังผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นเนื่องมาจากปัญหาโควิด-19 ไม่ยอมออกไปจับจ่ายที่ร้านเหมือนเช่นเดิม แต่ยอดขายออนไลน์พุ่งร่วม 9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 22% เมื่อเทียบกับปี 2019
CNBC สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (28 พ.ย.) ว่า จากวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาดในปีนี้ได้กระทบต่อวิถีการดำรงชีวิตและการฉลองเทศกาลของคนอเมริกัน Sensormatic Solutions ได้ทำวิจัยถึงเทศกาลแบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) หรือ 1 วันหลังวันขอบคุณพระเจ้า พบว่ายอดขายในร้านปีนี้ตกลงไป 52.1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเนื่องมาจากผู้บริโภคอเมริกันได้หันไปซื้อสินค้าทางออนไลน์แทน
ช่วงเวลา 6 สัปดาห์สำคัญในการจับจ่ายช่วงสิ้นปีของชาวอเมริกันที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันขอบคุณพระเจ้าไปจนถึงวันคริสต์มาสที่ธุรกิจร้านค้าในสหรัฐฯ คาดหวังว่าจะมีเงินสะพัดกลับมา แต่ Sensormatic Solutions ได้คาดการณ์ว่า การเดินเข้าไปจับจ่ายในร้านของลูกค้าจะตกลงไปราว 22%- 25% ปีต่อปี
“เรารู้ว่าเทศกาลแบล็กฟรายเดย์จะต้องตกลง แต่เราไม่รู้ว่ามันจะตกมากเท่าไหร่” ไบรอัน ฟิลด์ (Brian Field) ผู้อำนวยการอาวุโสที่ปรึกษาร้านค้าปลีกประจำ Sensormatic Solutions กล่าว และชี้ว่า “ผู้บริโภคได้กระจายการซื้อออกไปตลอดทั้งเทศกาลเนื่องมาจากวิตกในเรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและโรคติดต่อระบาด”
ทั้งนี้ พบว่าร้านค้าจำนวนมากรวมไปถึง ห้างวอลมาร์ท และห้างทาร์เก็ต (Target) ได้ปิดลงในวันขอบคุณพระเจ้า (26) ในปีนี้เนื่องมาจากโรคโควิด-19 ส่งผลทำให้การเข้าร้านเพื่อซื้อของลูกค้าตกลงไป 94.9% ปีต่อปี อ้างอิงตัวเลขจากบริษัท
อ้างอิงจากรอยเตอร์พบว่า ห้างวอลมาร์ทเปิดในเวลา 05.00 น.ของวันศุกร์ (27) ส่วนร้านเบสต์ บาย (Best Buy) เปิดในเวลา 05.00 น.เช่นกัน
หนึ่งในนักชอปชาวอเมริกันวัย 77 ปีได้เปิดเผยกับรอยเตอร์ระหว่างการจับจ่ายวันแบล็กฟรายเดย์ที่ห้างเมซีส์ในนิวยอร์กว่า เธอไม่วิตกในโรคโควิด-19 เนื่องมาจากเธอมีแอนติบอดีโควิด-19 แล้ว
“ดิฉันเฝ้ารอวันนี้มาเป็นเวลานานเพื่อที่จะซื้อผ้าเช็ดตัวและผ้าปูที่นอน และสิ่งอื่นที่ดิฉันต้องการ” และเสริมว่า “ราคามันไม่ใช่ราคาลดกระหน่ำแบล็กฟรายเดย์ ดิฉันมาที่นี่เมื่อ 2 วันก่อนหน้า และราคามันดีกว่านี้มาก”
ทั้งนี้ พบว่าห้างนอร์ดสโตรม (Nordstrom) ได้จูงใจลูกค้าด้วยการแจกบัตรลดราคา 15 ดอลลาร์ฟรีให้กับลูกค้าที่ต้องการมารับสินค้าด้วยตนเองที่นอกร้าน
อย่างไรก็ตาม พบว่าการซื้อออนไลน์ในวันแบล็กไฟรเดย์สำหรับปีนี้เพิ่มขึ้น 24.6% สร้างสถิติใหม่ พบว่าผู้บริโภคได้ซื้ออนไลน์วันแบล็กฟรายเดย์สูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์ อ้างอิงจาก Adobe Analytics ส่งผลทำให้กลายเป็นการชอปทางออนไลน์วันแบล็กฟรายเดย์สูงสุดอันดับ 2 เป็นประวัติศาสตร์ในสหรัฐฯ ตามหลังวันไซเบอร์ มันเดย์ (Cyber Monday) ของปี 2019
Adobe Analytics เชื่อว่าวันไซเบอร์ มันเดย์ที่จะมีขึ้นในวันจันทน์ (30) คาดว่าจะเป็นวันที่มีการจับจ่ายทางออนไลน์สูงสุดในประวัติศาสตร์ที่เชื่อว่าจะมีการจับจ่าย 10.8 พันล้านดอลลาร์ - 12.7 พันล้านดอลลาร์ และเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเติบโต 15-35% จากปีก่อนหน้า
