นักวิทยาศาสตร์ชาวอิหร่านซึ่งตะวันตกสงสัยมานานว่าเป็นผู้บงการโครงการลับระเบิดนิวเคลียร์ เสียชีวิตในเหตุซุ่มโจมตีใกล้เตหะรานในวันศุกร์(27พ.ย.) การเสียชีวิตที่อาจจุดชนวนเหตุเผชิญหน้ากันระหว่างเตหะรานกับเหล่าอริศัตรู ในสัปดาห์ท้ายๆวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของโดนัลด์ ทรัมป์
เชื่อว่าการตายของ มอห์เซน ฟาครีซาเดห์ จะก่อความยุ่งยากซับซ้อนแก่ความพยายามใดๆของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จะหวนคืนสู่ผ่อนคลายความตึงเครียด เช่นเดียวกับเมื่อครั้งในสมัยการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของบารัค โอบามา
ฟาครีซาเดห์ ถูกกลุ่มติดอาวุธโจมตีด้วยระเบิดและปืนกลขณะโดยสารรถยนต์บนถนนเมืองแอบซาร์ด เมืองเล็กๆ นอกกรุงเตหะราน ก่อนไปสิ้นใจที่โรงพยาบาล แพทย์ไม่อาจกู้ชีวิตได้
ที่เกิดเหตุมีเลือดนองอยู่ข้างรถ ส่วนพยานในที่เกิดเผยว่าได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นก่อน ตามด้วยเสียงปืนกล ยิงเข้าใส่รถที่ฟาครีซาเดห์โดยสารอยู่ นอกจากเหยื่อรายนี้แล้ว เจ้าหน้าที่คุ้มกันคนอื่นๆ ก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วย
อิหร่าน ชี้เป้าไปที่อิสราเอล อ้างเป็นนัยว่าการลอบสังหารครั้งนี้เป็นคำอวยพรมอบแด่ทรัมป์ก่อนอำลาตำแหน่ง โดย จามัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศเขียนนบทวิตเตอร์ว่า "มีสิ่งบ่งชี้อย่างจริงจังเกี่ยวกับบทบาทของอิสราเอล" เขากล่าว
ด้านที่ปรึกษาด้านการทหารของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนาอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศโจมตีสายฟ้าแลบจัดการพวกมือสังหารที่ข่มเหงผู้เสียสละ "ในวันท้ายๆในชีวิตการเมืองของพวกเขา พันธมิตร(ทรัมป์) พวกไซออนิสกำลังหาทางเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่านและสร้างสงครามเต็มรูปแบบ" ฮอสเซน เดห์กานกล่าว
ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆจากศัตรูต่างแดนของอิหร่าน โดยอิสราเอลปฏิเสธแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกับฝ่ายต่างๆในสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นทำเนียบขาว, เพนตากอน, กระทรวงการต่างประเทศและซีไอเอ รวมไปถึงคณะทำงานด้านโอนถ่ายอำนาจของไบเดน
ฟาครีซาเดห์ ถูกระบุจากชาติตะวันตกและหน่วยข่าวกรองอิสราเอล มานานหลายปีว่าเป็นผู้นำลึกลับของโครงการลับระเบิดปรมาณูที่ระงับไปในปี 2003 ซึ่งอิสราเอลและสหรัฐฯกล่าวหาว่าเตหะรานพยายามรื้อฟื้นโครงการนี้ขึ้นมาใหม่ แต่ทางอิหร่านยืนกรานปฏิเสธว่าพวกเขาไม่ได้แสวงหาอาวุธพลังงานนิวเคลียร์
ทาสนิม สื่อมวลชนกึ่งรัฐของเตหะรานรายงานว่า "พวกก่อการร้ายได้ระเบิดรถยนต์อีกคัน" ก่อนเปิดฉากรัวยิงเข้าใส่รถของฟาครีซาเดห์และบอดีการ์ดของเขา ในเหตุโจมตีชานกรุงเตหะราน"
ทรัมป์ ซึ่งพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ต่อ ไบเดน และจะออกจากตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ถอนสหรัฐฯออกจากข้อตกลงประวัติศาสตร์ที่บรรลุโดยโอบามา ซึ่งยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่างๆที่กำหนดเล่นงานอิหร่าน แลกกับการที่เตหะรานยอมระงับโครงการนิวเคลียร์
ไบเดน เคยบอกว่าเขามีเป้าหมายจะฟื้นข้อตกลงดังกล่าว แม้พวกนักวิเคราะห์จำนวนมากบอกว่ามันเป็นเป้าหมายที่ท้าทายอย่างมาก เนื่องจากต่างฝ่ายต่างเรียกร้องคำปรับประกันจากอีกฝ่ายเพิ่มเติม
โรเบิร์ต มัลเลย์ ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาด้านอิหร่านของโอบามาและเป็นที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการของคณะทำงานไบเดน ระบุว่าเหตุสังหารฟาครีซาเดห์ เป็นหนึ่งในหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ท้ายๆของทรัมป์ ที่ดูเหมือนว่าจะทำให้ ไบเดน เจองานยากขึ้นในการหวนคืนสู่การเจรจากับเตหะราน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯรายหนึ่งยืนยันเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาว่า ทรัมป์ขอให้ผู้ช่วยด้านการทหารร่างแผนสำหรับความเป็นไปได้ที่จะโจมตีอิหร่าน ก่อนสุดท้าย ทรัมป์ จะล้มเลิกแนวคิดนี้ไป เพราะเสี่ยงโหมกระพือความขัดแย้งในตะวันออกกลางให้ลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทรัมป์ออกคำสั่งให้ส่งโดรนปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก ปลิดชีพ กาเซ็ม โซไลมาลี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ (Quds)แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ส่งผลให้ อิหร่าน ตอบโต้ด้วยการยิงชีปนาวุธถล่มฐานทัพสหรัฐฯในอิรัก นำพาคู่อริทั้งสองเฉียดใกล้สงครามมากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
(ที่มา:รอยเตอร์)