เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯคนใหม่ โจ ไบเดน ออกมายืนยันในการให้สัมภาษณ์ว่า ถึงแม้ผู้ที่เข้าร่วม ครม.ชุดใหม่ของเขาจะมีคนหน้าเก่าจำนวนมากจากสมัยอดีต รบ.โอบามา แต่ไบเดนยืนยันว่า ทำเนียบขาวยุคของเขาไม่ใช้โอบามาสมัย 3 แน่นอน ทั่วโลกฮือฮาหลังมีรายงาน อดีตผู้ว่าการเฟด แจเนต เยลเลน เตรียมขึ้นนั่งรัฐมนตรีคลังหญิงสหรัฐฯคนแรก
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (25 พ.ย.) ว่า ในการนั่งเปิดใจให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกของ โจ ไบเดน กับเลสเตอร์ โฮลต์ (Lester Holt) ค่ำวันอังคาร (24) ทาง NBC โดยได้กล่าวยืนยันหนักแน่นปฏิเสธต่อคำถามว่า นี่เป็นการสร้าง ครม.สมัยโอบามา 3 หรือไม่
ไบเดนกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่โอบามาสมัยที่ 3 เรากำลังเผชิญหน้ากับโลกที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิงจากช่วงเวลาของรัฐบาลโอบามา-ไบเดน” และย้ำว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่”
ซึ่งว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่จากพรรคเดโมแครตที่ได้เสนอชุดแรกของดรีมทีมไบเดนในวันอังคาร (24) มีเป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของประชาชนคนอเมริกันและความหลากหลายของพรรคเดโมแครต และยอมรับอย่างจริงจังว่า เคยคิดแม้กระทั่งจะแต่งตั้งคนของพรรครีพับลิกันที่โหวตให้กับทรัมป์
“ผมต้องการให้ประเทศนี้เกิดความสามัคคี” ไบเดนยอมรับ
ในรายงานดูเหมือนเป็นการรับปากออกมากลายๆ โดยไบเดนกล่าวว่า เขาจะไม่ใช้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯเป็นเครื่องมือเพื่อสอบสวนทรัมป์ และพรรคพวกถึงแม้ว่าจะมีแรงกดดันออกมาจากภายในพรรคเดโมแครตที่ต้องการให้มีการสอบสวนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และคดีความอื้อฉาวเรื่องการเงินที่มีรายงานว่าเกี่ยวข้องกับต่างชาติ และปัญหาที่ผู้นำสหรัฐฯต้องการให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาพัวพันการเลือกตั้งสหรัฐฯ เพราะเมื่อทรัมป์ได้หมดวาระลงหลังที่ไบเดนสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค ปี 2021 ทรัมป์จะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองในการถูกดำเนินคดีทางกฎหมายทันที
สำหรับในประเด็นศึกภายในพรรคเดโมแครตระหว่างสายดิเอสแทบลิชเมนต์ หรือสายกลางและฝ่ายก้าวหน้าที่มีแกนนำโดยสว.เบอร์นี แซนเดอร์ส และ ส.ว. เอลิซาเบธ วอร์เรน ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีรายงานข่าวการเปิดตัวคณะ ครม. ฝ่ายโปรเกรสซีฟได้ออกมาเปิดประเด็นผ่านหน้าจอโทรทัศน์ให้ไบเดนทำตามข้อเรียกร้องนโยบายฝ่ายตน ซึ่งในรายการโฮลต์ถามผ่าทางตันไปถึงการที่จะแต่งตั้งให้ 2 ส.ว. หัวก้าวหน้าเข้ามานั่งคุมในชุดบริหารของไบเดน แต่ไบเดนไม่ได้ตอบอะไรอย่างชัดเจน แต่ทว่าดูเหมือนเป็นที่แน่ชัดว่าความหวังของฝ่ายโปรเกรสซีฟที่ต้องการให้วอร์เรนที่เคยโด่งดังในด้านการกำกับตลาดวอลสตรีทในสมัยโอบามาขึ้นมานั่งคุมการคลังคนใหม่ของสหรัฐฯต้องสลายไป
โดยบีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานว่า ไบเดนเตรียมแต่งตั้ง อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ แจเนต เยลเลน ให้เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังหญิงคนแรกของสหรัฐฯในชุดทำเนียบขาวของเขา ซึ่งเป็นการเลือกที่ได้รับการยอมรับไปทั่ว แม้แต่วอร์เรนยังทวีตแสดงความชื่นชมในวันอังคาร (24) ว่า ถือเป็นตัวเลือกที่น่ายกย่องสำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เพราะเยลเลนนั้นชาญฉลาด แข็งแกร่ง และเป็นคนมีหลักการ เป็นหนึ่งในประธานเฟดที่ประสบความสำเร็จ เป็นคนที่ลุกขึ้นต่อสู้กับพวกธนาคารวอลสตรีท รวมไปถึงทำให้ธนาคารเวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo) ต้องรับผิดชอบในการฉ้อโกงต่อครอบครัวกลุ่มคนใช้แรงงานอเมริกัน
สื่ออังกฤษรายงานว่า เยลเลนนั้นให้ความสำคัญไปที่การว่าจ้างมากกว่าระบบเงินเฟ้อ และทำให้เธอถูกเป็นที่รู้กันว่ามักจะเอื้อในทางลดดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่จะทำให้การกู้เงินมีภาระที่น้อยลง
ซึ่งในวันจันทร์ (23) อดีตที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและการบริหารของธนาคารโกลด์แมนแซคซ์ แกรี โคห์น (Gary Cohn) ออกมาแสดงความยินดีที่เยลเลนมีชื่อปรากฏเป็นผู้จะเข้ามาทำหน้าที่ต่อจาก สตีฟ มนูชิน โดยแสดงความชื่นชมไบเดนว่า “เป็นการเลือกอย่างยอดเยี่ยม”
โดยชี้ว่า “ไม่อย่างเป็นที่ต้องสงสัยว่า เธอ (แจเนต เยลเลน) จะเป็นมือที่นิ่งที่เราต้องการในการโปรโมตเศรษฐกิจที่ทำงานสำหรับทุกคน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ ขอแสดงความยินดี”
เยลเลนต่างจากมนูชินโดย ส.ว.วอร์เรน ชี้ว่า ในสมัย 4 ปีของมนูชินนั้น กระทรวงการคลังสหรัฐฯได้เอื้อให้แต่กับกลุ่มคนรวยสหรัฐฯ และพวกพ้อง แต่ทิ้งให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่ยากจนต้องอยู่ไว้เบื้องหลัง