สหรัฐฯ ขยายเวลาอีก 2 สัปดาห์ ให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทแม่สัญชาติจีนของ TikTok บรรลุข้อตกลงขายกิจการแอปฯ แชร์วิดีโอยอดฮิตในอเมริกาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 พ.ย. นี้ เพื่อขจัดข้อกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามความมั่นคงที่คณะบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หยิบยกขึ้นมาอ้าง
ไบต์แดนซ์ได้ยื่นเอกสารต่อศาลแขวงสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า รัฐบาลทรัมป์ ตัดสินใจขยายเส้นตายที่ไบต์แดนซ์จะต้องบรรลุข้อตกลงกับออราเคิล (Oracle) และ วอลมาร์ท (Walmart) จากเดิม 12 พ.ย. เป็นวันที่ 27 พ.ย.
ทรัมป์ ขู่จะสั่งแบน TikTok หากไบต์แดนซ์ไม่ยอมขายกิจการแอปฯ นี้ ในอเมริกาให้แก่นักลงทุนสหรัฐฯ ทว่า ความพยายามของเขาก็ถูก TikTok ยื่นฟ้องคัดค้านมาอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ มีถ้อยแถลงล่าสุดว่า การขยายเวลาปิดดีล TikTok “จะช่วยให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะกรรมการ มีเวลาเพิ่มเติมที่จะแก้ไขปัญหานี้” ด้วยแนวทางที่สอดคล้องกับคำสั่งบริหารซึ่ง ทรัมป์ ลงนามเมื่อวันที่ 14 ส.ค.
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (12) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยืนยันจะชะลอมาตรการแบน TikTok ออกไปก่อน เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งศาลแขวงเพนซิลเวเนีย
มาตรการเล่นงานแอปฯ จีนของคณะบริหาร ทรัมป์ ถูกยื่นคัดค้านในศาลสหรัฐฯ อย่างน้อย 2 แห่ง โดย TikTok และไบต์แดนซ์ได้ยื่นฟ้องต่อศาลกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ขณะที่บรรดา “ผู้พัฒนา TikTok” ยังได้ยื่นฟ้องศาลรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งได้ยับยั้งคำสั่งแบนของ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 30 ต.ค.
รัฐบาล ทรัมป์ อ้างว่าข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกันราว 100 ล้านคนที่ใช้แอปฯ นี้อาจจะถูกส่งต่อให้กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่ง TikTok ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
ทรัมป์ ยืนยันว่า TikTok จะต้องกลายเป็นบริษัทที่ควบคุมโดยนักลงทุนอเมริกันเท่านั้นจึงจะสามารถดำเนินกิจการในสหรัฐฯ ต่อได้ ทว่าแผนปรับโครงสร้างใดๆ ก็ตามจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากทั้งรัฐบาลวอชิงตันและปักกิ่ง
กระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกกฎเกณฑ์ใหม่เมื่อเดือน ส.ค. โดยเพิ่มเทคโนโลยี “สำหรับใช้งานด้านพลเรือน” ไว้ในกลุ่มสินค้าที่ต้องจำกัดการส่งออก นั่นเท่ากับว่า ไบต์แดนซ์จะต้องเผชิญอุปสรรคใหญ่ในการที่จะขาย TikTok ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปวิดีโอสั้นๆ ที่มีเนื้อหาตั้งแต่การเต้นเรื่อยไปจนถึงประเด็นการเมือง
ที่มา: เอเอฟพี