บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ต้องทำการกักโรคตนเอง หลังสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลรายหนึ่งซึ่งมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก จากการเปิดเผยของโฆษกเมื่อวันอาทิตย์ (15 พ.ย.) หลังจากก่อนหน้านี้ เคยติดเชื้อมาแล้ว และอาการหนักถึงขั้นต้องเข้าไอซียู
“เขาจะยังคงทำงานจากบ้านพักถนนดาวนิง ในนั้นรวมถึงนำรัฐบาลตอบโต้โรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนา” โฆษกระบุ “นายกรัฐมนตรีจะปฏิบัติตามกฎระเบียบและกำลังกักโรคตนเอง”
ก่อนหน้านี้ จอห์นสัน เคยติดเชื้อโควิด-19 มาแล้วเมื่อช่วงเดือนเมษายนและอาการหนักถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูของโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม ในคราวนี้ โฆษกของนายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยในวันอาทิตย์ (15 พ.ย.) ว่า จอห์นสัน แข็งแรงดีและยังไม่แสดงอาการใดๆ
คำแถลงมีขึ้นหลังจาก จอห์นสัน ได้พบปะกับกลุ่มสมาชิกรัฐสภาที่บ้านพักนายกรัฐมนตรี ถนนดาวนิง เมื่อวันพฤหัสบดี (12 พ.ย.) ในนั้นรวมถึง ลี อันเดอร์สัน สมาชิกพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ซึ่งต่อมามีอาการของโควิด-19 และผลตรวจออกมาเป็นบวก
จอห์นสัน วัย 56 ปี เคยติดเชื้อโควิด-19 และต้องถูกนำตัวเข้าห้องไอซียูเป็นเวลา 3 วัน ในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งต่อมาเขาออกมายกความดีความชอบให้บรรดาเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ที่ช่วยปกป้องชีวิตของเขา
ผู้นำอังกฤษบอกว่า อาการติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของเขาทรุดลงจากการที่ตนเองมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ทว่านับตั้งแต่นั้นเขาสามารถลดน้ำหนักลงมาได้แล้วกว่า 12 กิโลกรัม
สหราชอาณาจักรเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดในยุโรป ในแง่ของผู้เสียชีวิต โดยจนถึงตอนนี้พบผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 52,000 คน จากผู้ติดเชื้อเกือบ 1,370,000 คน
(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์)