สื่อรัฐบาลจีนแสดงความคาดหวังในแง่ดีวันนี้ (9 พ.ย.) ว่า การก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของ โจ ไบเดน น่าจะทำให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ คาดเดาได้มากยิ่งขึ้น โดยอาจเริ่มต้นจากการปลดชนวนสงครามการค้าเป็นอันดับแรก
หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ของจีนมองว่า ปักกิ่งควรจะหาวิธีสื่อสารกับทีมงานของ ไบเดน อย่างรอบคอบระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้จะยอมรับว่า สหรัฐฯ คงไม่ผ่อนคลายแรงกดดันที่มีต่อจีนในเรื่องต่างๆ เช่น ปัญหาสิทธิมนุษยชนในซินเจียงและฮ่องกงก็ตาม
โกลบอลไทม์สชี้ว่า สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จงใจกระพือข้อพิพาทกับปักกิ่งในหลายด้าน โดยเฉพาะการใช้ยุทธศาสตร์กดดันจีนเพื่อเรียกคะแนนเสียง ซึ่งทำให้นโยบายที่สหรัฐฯ มีต่อจีนในปีนี้เต็มไปด้วย “ฟองอากาศ” (bubbles)
“เราเชื่อว่า การขจัดฟองอากาศเหล่านี้มีความเป็นไปได้จริง และหากความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ผ่อนคลายลงจนอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อพลเมืองของทั้ง 2 ประเทศและประชาคมโลก”
โกลบอลไทม์สเป็นสื่อแท็บลอยด์ในเครือเดียวกับหนังสือพิมพ์พีเพิลส์เดลี ซึ่งเป็นสื่อทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทว่าความคิดเห็นในสื่อฉบับนี้ก็ไม่ได้สะท้อนจุดยืนของพรรคอมมิวนิสต์หรือรัฐบาลจีนเสมอไป
ด้านหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีได้ตีพิมพ์บทบรรณาธิการ ซึ่งระบุว่า “เป็นที่ชัดเจน” ว่า การฟื้นฟูความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ควรเริ่มที่ประเด็นการค้า ดังนั้น การเปิดเจรจาการค้ารอบใหม่จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความเข้าใจและเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน
“นี่คือสายป่านเส้นท้ายๆ ที่ยึดโยงทั้ง 2 ฝั่งไว้ เราจะเห็นได้ว่าทั้งปักกิ่งและวอชิงตันต่างก็ไม่คิดที่จะยกเลิกข้อตกลงการค้าเฟส 1 ซึ่งได้มาอย่างยากเย็น” ไชน่าเดลีซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของทางการจีน ระบุ
ความตึงเครียดระหว่างชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเบอร์ 1 และ 2 ของโลกยกระดับรุนแรงขึ้นตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะกระทบห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีและความสัมพันธ์ทางการค้าแล้ว ยังทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดสงครามการเงินขึ้นด้วย
แรงกดดันจากสหรัฐฯ ประกอบกับผลกระทบจากโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลกทำให้จีนต้องสร้างรูปแบบการพัฒนาแบบหมุนเวียนคู่ขนาน (dual circulation) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ก้าวต่อไปข้างหน้า โดยยึดตลาดในประเทศเป็นแกนหลักควบคู่ไปกับการส่งออก
“จีนจะต้องเป็นชาติที่สหรัฐฯ ไม่สามารถกดขี่หรือบ่อนทำลายได้อีกต่อไป และเราต้องทำให้พวกเขาตระหนักว่าการร่วมมือกับจีนคือหนทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้สหรัฐฯ ได้ประโยชน์” โกลบอลไทม์ส ระบุ
ที่มา: รอยเตอร์