สหรัฐฯกลายเป็นชาติแรกของโลกที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เกิน 10 ล้านคน นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงปลาย จากการนับของรอยเตอร์ในวันอาทิตย์ (8 พ.ย.) ขณะที่ระลอก 3 ของโควิด-19 กำลังเล่นงานอย่างหนักทั่วประเทศ
หลักชัยอันน่าเศร้านี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่เคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก พุ่งเกิน 50 ล้านคน
อเมริการายงานพบผู้ติดเชื้อราวๆ 1 ล้านคน ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ถือเป็นอัตราการติดเชื้อสูงที่สุด นับตั้งแต่รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายแรกในรัฐวอชิงตัน เมื่อ 293 วันก่อน
ตามการนับของรอยเตอร์ ประเทศแห่งนี้รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 131,420 คน เมื่อวันเสาร์ (7 พ.ย.) ถือเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่เกินกว่า 100,000 คน เป็นวันที่ 4 ในรอบ7 วันหลังสุด
สหรัฐฯมีค่าเฉลี่ยจำนวนผู้ติดเชื้อ 7 วันหลังสุด อยู่ที่ 105,600 เคสต่อวัน เพิ่มขึ้นอย่างน้อยๆ 29% และมากกว่าค่าเฉลี่ยรวมกันของอินเดียกับฝรั่งเศส 2 ชาติ ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดในเอเชียและยุโรป
จนถึงตอนนี้มีอเมริกันชนแล้วมากกว่า 237,000 รายที่เสียชีวิตจากโควิด-19 นับตั้งแต่โรคระบาดที่มีต้นตอจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้นในจีนเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว
จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 คนต่อวัน เป็นวันที่ 5 ติดต่อกันเมื่อวันเสาร์ (7 พ.ย.) แนวโน้มที่เคยพบเห็นเมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคม ในขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่าแนวโน้มของการเสียชีวิตนี้ จะเพิ่มขึ้นราว 4 หรือ 6 สัปดาห์ หลังเกิดระลอกคลื่นของการติดเชื้อ นั่นหมายความว่าอัตราการเสียชีวิตในอเมริกาน่าจะเพิ่มขึ้นกว่านี้อีก
โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง วิพากษ์วิจารณ์แนวทางรับมือกับโรคระบาดใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาในวันเสาร์ (7 พ.ย.) ว่าจะให้ความสำคัญกับการจัดการกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในลำดับต้นๆ
ในวันจันทร์ (9 พ.ย.) ไบเดน จะแถลงรายชื่อคณะทำงานเฉพาะกิจ 12 ราย สำหรับรับมือกับโรคระบาดใหญ่ จะนำโดย วิเวก เมอร์ตี อดีตศัลยแพทย์สูงสุดสหรัฐฯ และ ดาวิด เคสส์เลอร์ อดีตคณะกรมการสำนักงานอาหารและยา ซึ่งคณะทำงานชุดนี้จะมีหน้าที่จัดทำพิมพ์เขียวสำหรับควบคุมการแพร่ระบาด เมื่อครั้งที่ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม
แถบมิดเวสต์ยังคงเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่บนพื้นฐานของเคสผู้ติดเชื้อต่อจำนวนประชากร โดยที่ นอร์ทดาโคตา, เซาต์ดาโคตา, วิสคอนซิน, ไอโอวา และเนบราสกา เป็น 5 รัฐที่ได้รับผลกระทบสาหัสที่สุดของสหรัฐฯ บนพื้นฐานดังกล่าว
ขณะเดียวกัน อิลลินอยส์ โผล่ขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดใหม่ในแถบมิดเวสต์ ด้วยรัฐแห่งนี้รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 60,000 คน ในช่วง 7 วันหลังสุด ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประเทศ โดยรัฐแห่งนี้รายงานพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 12,454 คน ในวันเสาร์ (7 พ.ย.) ถือเป็นสถิติสูงสุดวันเดียวของรัฐอิลลินอยส์นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด
เทกซัส เป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ในแง่ของจำนวนผู้ติดเชื้อ โดยพบผู้ติดเชื้อคิดเป็น 10% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดทั่วสหรัฐฯ และกลายเป็นรัฐแห่งแรกของอเมริกา ที่มีเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมเกินกว่า 1 ล้านคนเมื่อวันเสาร์ (7 พ.ย.)
ส่วนรัฐนิวยอร์ก มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 33,000 คน ทำให้ยังคงเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดของประเทศ โดยคิดเป็นราวๆ 14% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดทั่วสหรัฐฯ
(ที่มา: รอยเตอร์)