ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เดินสายหาเสียงที่บ้านเกิดของ โจ ไบเดน คู่แข่ง ก่อนวันเลือกตั้ง ปฏิเสธผลโพลที่พบว่าเขาจะปราชัยต่อคู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ขณะที่ห้างร้านธุรกิจต่างๆ ในย่านกลางกรุงวอชิงตัน เริ่มนำไม้กระดานมาปิดหน้าต่างหรือประตู ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบ สืบเนื่องจากผลเลือกตั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายน
2 คู่แข่งต่างใช้เวลาในวันจันทร์ (2 พ.ย.) เดินสายหาเสียงในรัฐสมรภูมิทั้งหลาย ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินผลเลือกตั้ง ก่อนมาบรรจบกันที่เพนซิลเวเนีย รัฐสมรภูมิสำคัญ และต่างฝ่ายต่างจัดปราศรัยใหญ่ในรัฐแห่งนี้ หวังเรียกคะแนนเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย
ทรัมป์ คว้าชัยในเพนซิลเวเนียอย่างพลิกความคาดหมายในปี 2016 แต่ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ไบเดน ยังคงมีคะแนนิยมนำหน้าเล็กน้อยในเพนซิลเวเนีย และตัวแทนจากเดโมแครตจะใช้เวลาในช่วง 11 ชั่วโมงของวันเลือกตั้ง เดินทางไปยังสแกรนตัน บ้านเกิดของเขา
ประธานาธิบดี ทรัมป์ บินเข้าสู่รัฐแห่งนี้ หลังเสร็จสิ้นการหาเสียงในเมืองเฟย์เอตต์วิลล์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา “ผมเห็นโพลปลอมๆ พวกนี้แล้ว ยังไงซะ เราก็จะเป็นฝ่ายชนะ” ทรัมป์กล่าว
คำปราศรียที่โจมตีโพลทั้งหลาย ด่าทอผู้สื่อข่าว ตำหนิบรรดาซีอีโอของสื่อสังคมออนไลน์ และ ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งของเขาเมื่อครั้งศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2016 สะท้อนถึงอารมณ์เดือดดาลของทรัมป์ ในขณะที่เขากำลังเผชิญกับความเป็นไปได้ที่จะต้องพ้นจากเก้าอี้ทำเนียบขาว
ดังเช่นที่พยายามมานานหลายเดือน ในการหาเสียงครั้งนี้ ทรัมป์ ยังมุ่งป้ายสี ไบเดน ว่าเป็นพวก “ซึมเซา” และ “คอร์รัปชัน” ในขณะที่ฝูงชนตะโกนขานรับว่า “เอาเขาไปขัง” นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังกระตุ้นกำลังใจโดยย้อนถึงชัยชนะสุดช็อกของเขาเมื่อ 4 ปีก่อน บอกกับฝูงชนว่า “คุณเลือกม้านอกสายตาเป็นประธานาธิบดี บุคคลซึ่งท้ายที่สุด ได้ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ (America first)”
“ออกไปลงคะแนน นั่นแหละที่ผมขอจากพวกคุณ” ทรัมป์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ไบเดน ซึ่งรณรงค์หาเสียงด้วยการตราหน้าทรัมป์ ว่าเป็นผู้ล้มเหลวโดยขาดการไตร่ตรองระหว่างโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ บอกว่าเขากำลังรู้สึกได้ถึงชัยชนะ
ผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ พบว่า ไบเดน มีคะแนนนิยมนำหน้าเล็กน้อยในรัฐสมรภูมิทั้งหมด ในศึกเลือกตั้งที่เชื่อว่าผลจะออกมาคู่คี่สูสี ไม่เว้นแม้กระทั่งในป้อมปราการสำคัญของพรรครีพับลิกัน อย่างเช่นกันจอร์เจียและเทกซัส
“มันถึงเวลาที่ทรัมป์จะต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้าน” ไบเดนวัย 77 ปี บอกกับผู้สนับสนุน ณ กิจกรรมหาเสียงแบบเว้นระยะห่างทางสังคมในคลิฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ “เราไม่เอาแล้วความยุ่งเหยิง! เราพอแล้วกับทวีต ความโกรธแค้น ความเกลียดชัง ความล้มเหลว และความไร้ความรับผิดชอบ”
หลังจากโอไฮโอ ไบเดน ได้มุ่งหน้าสู่เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย เพื่อหาเสียงแบบไดฟ์อิน โดยมีซูเปอร์สตาร์คนดังอย่าง เลดี กาก้า เข้าร่วมด้วย
วันอังคาร (3 พ.ย.) คือวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ในความเป็นจริงคือมันเป็นจุดสิ้นสุดของศึกเลือกตั้งที่ครอบคลุมเวลานาน 1 เดือน
ด้วยมีการเพิ่มการลงคะแนนไปรษณีย์อย่างมหาศาล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ เวลานี้มีประชาชนชาวสหรัฐฯเกือบ 100 ล้านคนแล้วที่ใช้สิทธิเลือกตั้ง เน้นย้ำถึงอารมณ์ร่วมในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ที่กำลังกลายเป็นการลงประชามติต่อการทำหน้าที่สมัยแรกของทรัมป์ ซึ่งทำลายบรรทัดฐานหลายอย่างจนป่นปี้
ทั่วทั้งย่านกลางกรุงวอชิงตัน ห้างร้านธุรกิจทั้งหลายต่างนำไม้กระดานมาปิดหน้าต่างหรือประตู ในความคาดหมายว่า อาจเกิดสถานการณ์ความไม่สงบตามหลังศึกเลือกตั้ง และมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่มีแผนติดตั้งรั้วใหม่แบบยืดหดได้รอบๆ ทำเนียบขาว ท่ามกลางการประท้วงต่อต้านเหยียดผิวที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน
ในขณะที่ประธานาธิบดีส่งเสียงเตือนว่า พวกหัวรุนแรงฝ่ายซ้ายจะก่อความวุ่นวาย แต่ขณะเดียวกัน กลับเป็นฝ่ายสนับสนุนทรัมป์เองที่ออกมาสำแดงสรรพกำลัง จัดตั้งคาราวานรถกระบะประดับธงตระเวนไปทั่วและปิดกั้นถนนสายต่างๆ ไปทั่วเมือง
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีรายงานว่า เวลานี้ FBI กำลังสอบสวนเหตุการณ์ขบวนรถบัสหาเสียงของ ไบเดน ถูกกลุ่มผู้สนับสนุนของประธานาธิบดี ขับรถบรรทุกพร้อมโบกธงของทรัมป์ ตามล้อมหน้าล้อมหลังรถบัสหาเสียงของไบเดน บนถนนไฮเวย์ I-35 ที่ เฮย์ส เคาน์ตี (Hays County) ในวันศุกร์ (30 ต.ค.) เพื่อต้องการข่มขู่ผู้สนับสนุนของผู้สมัครจากเดโมแครต
