เอพี - ซูเปอร์ไต้ฝุ่นโกนีถล่มฝั่งตะวันออกของฟิลิปปินส์เมื่อเช้าวันอาทิตย์ (1 พ.ย.) ส่งผลให้หลายเมืองไฟดับ และต้องอพยพประชาชนราว 1 ล้านคน ในบริเวณที่คาดว่าเป็นทางผ่านของพายุ ซึ่งรวมถึงมะนิลาที่ต้องปิดสนามบินหลัก นอกจากนั้น ยังมีคำเตือนว่า อาจเกิดดินถล่ม น้ำท่วมหนัก คลื่นพายุซัดฝั่งสูงถึง 5 เมตร
ไต้ฝุ่นโกนีถล่มจังหวัดคาตันดัวเนสช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์ด้วยความเร็วลมที่พัดต่อเนื่อง 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลมกระโชก 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมุ่งหน้าทางด้านตะวันตกเข้าสู่พื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น ซึ่งรวมถึงกรุงมะนิลาที่มีประชากรกว่า 13 ล้านคน และจังหวัดที่มีฝนตกชุกที่ยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากไต้ฝุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 คน
เบื้องต้นมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ระบุว่า ยังต้องตรวจสอบรายละเอียดก่อน
สำนักงานพยากรณ์อากาศระบุว่า หลังจากขึ้นฝั่งราว 2 ชั่วโมง ไต้ฝุ่นโกนีเข้าถล่มเมืองอัลไบโดยมีกำลังลมที่พัดต่อเนื่องอ่อนลงเล็กน้อย แต่ลมกระโชกแรงขึ้นที่ 310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อัล ฟรานซิส ผู้ว่าการจังหวัดอัลไบ กล่าวในที่ประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยงานรับมือภัยพิบัติ ซึ่งมีการถ่ายทอดทางทีวีว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คน ขณะที่เหตุโคลนถล่มจากภูเขาไฟมายอนทำให้ประชาชนในบางหมู่บ้านตกอยู่ในอันตราย อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่อื่นๆ เผยว่า กำลังตรวจสอบรายงานเหล่านี้
ริคาร์โด จาลัด ผู้อำนวยการสำนักงานรับมือภัยพิบัติของรัฐบาล แถลงว่า ความแรงของไต้ฝุ่นลูกนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายรุนแรง และพื้นที่เสี่ยงหลายแห่งมีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมาก
สำนักงานพยากรณ์อากาศฟิลิปปินส์ตอกย้ำความกังวลดังกล่าวว่า ภายใน 12 ชั่วโมงข้างหน้า ประชาชนในบริเวณกำแพงตาพายุ และใกล้แกนกลางพายุจะเผชิญลมแรงมากและฝนตกหนัก
ประชาชนยังได้รับคำเตือนว่า อาจเกิดดินถล่ม น้ำท่วมหนัก คลื่นพายุซัดฝั่งสูงถึง 5 เมตร และลมแรงที่อาจพัดกระท่อมที่สร้างหยาบๆ ปลิวได้
โกนี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไต้ฝุ่นที่มีความแรงที่สุดในโลกในปีนี้ เตือนให้นึกถึงไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 7,300 คน หมู่บ้านหลายแห่งราบเป็นหน้ากลอง พัดเรือเกยขึ้นฝั่ง และประชาชนกว่า 5 ล้านคนในตอนกลางของฟิลิปปินส์ไม่มีที่อยู่อาศัย
จาลัดเสริมว่า ประชาชนเกือบ 1 ล้านคนอพยพสู่ศูนย์พักพิงฉุกเฉินล่วงหน้า พร้อมเตือนว่า คลื่นพายุซัดฝั่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมหมู่บ้านชายฝั่ง ซึ่งรวมถึงบริเวณอ่าวมะนิลา
สำนักงานพยากรณ์อากาศระบุว่า ตาพายุอาจเคลื่อนผ่านบริเวณที่อยู่ห่างจากทางใต้ของมะนิลาราว 70 กิโลเมตรในช่วงค่ำวันอาทิตย์
สนามบินหลักของมะนิลาได้รับคำสั่งให้ปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงตั้งแต่วันอาทิตย์จนถึงวันจันทร์ ส่งผลให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งในและระหว่างประเทศหลายสิบเที่ยวบิน ขณะที่ทหารและตำรวจ ตลอดจนถึงหน่วยยามฝั่งเตรียมพร้อมเต็มพิกัด
ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยโควิด-19 หลายร้อยคนถูกเคลื่อนย้ายจากเต็นท์ในศูนย์กักกันไปยังโรงพยาบาลและโรงแรม การเตรียมพร้อมรับมือซูเปอร์ไต้ฝุ่นนี้จะทำให้ทรัพยากรของรัฐบาลยิ่งร่อยหรอ หลังจากที่ต้องต่อสู้กับโรคระบาดมานานนับเดือน โดยฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันมากที่สุดอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ต้องเผชิญไต้ฝุ่นปีละประมาณ 20 ลูก และยังตั้งอยู่บนบริเวณที่เรียกว่า “วงแหวนไฟ” ที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง ส่งผลให้แดนตากาล็อกเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวโน้มเผชิญภัยพิบัติมากที่สุดในโลก