ทางการฟิลิปปินส์สั่งอพยพประชาชนกว่า 200,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงในภาคใต้ของเกาะลูซอน ก่อนที่ไต้ฝุ่นโคนี (Goni) ซึ่งทวีกำลังเป็นพายุหมุนระดับ 5 และจัดเป็นพายุที่มีความแรงที่สุดของปีนี้จะพัดขึ้นฝั่งในวันอาทิตย์ (1 พ.ย.)
สำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์รายงานว่า ไต้ฝุ่นโคนีซึ่งมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 205 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะเคลื่อนผ่านแหลมทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะลูซอนในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (1) ก่อนจะพัดขึ้นฝั่งในช่วงบ่าย และจัดเป็นไต้ฝุ่นที่มีความแรงสูงสุดที่จะเคลื่อนผ่านหมู่เกาะฟิลิปปินส์ถัดจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน (Haiyan) ที่เคยคร่าชีวิตชาวเมืองตากาล็อกไปกว่า 6,300 คนเมื่อปี 2013
ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่ง หรือชุมชนที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มในจังหวัดคานาริเนสนอร์เต (Camarines Norte) และคามาริเนสซูร์ (Camarines Sur) ได้รับคำเตือนให้อพยพแต่เนิ่นๆ ส่วนที่จังหวัดอัลไบ (Albay) หน่วยงานท้องถิ่นมีคำสั่งให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยรีบย้ายออกจากบ้านเรือนโดยด่วน
เกรมิล นาซ เจ้าหน้าที่บรรเทาภัยพิบัติในท้องถิ่น บอกกับสถานีวิทยุ DZBB ว่า “ความแรงของไต้ฝุ่นลูกนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น”
ไต้ฝุ่นโมลาเบ (Molave) ซึ่งเคลื่อนผ่านจังหวัดทางตอนใต้ของกรุงมะนิลาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 22 ราย ขณะที่ไต้ฝุ่นโคนีซึ่งเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 18 ที่พัดเข้าสู่หมู่เกาะฟิลิปปินส์ในปีนี้ก็คาดว่าจะมีเส้นทางที่ใกล้เคียงกัน
เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ยังเผชิญปัญหายุ่งยากเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคมภายในศูนย์พักพิงเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 โดยฟิลิปปินส์นั้นมียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงเป็นอันดับที่ 2 ของภูมิภาคอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย
ไต้ฝุ่นโคนีซึ่งกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคาดว่าจะเริ่มทำให้มีฝนตกในกรุงมะนิลาและ 14 จังหวัดใกล้เคียงตั้งแต่ค่ำวันนี้ (31) และมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันหรือดินถล่มขึ้นได้
ขณะเดียวกัน ไต้ฝุ่นลูกใหม่ที่มีชื่อว่า “อัสนี” (Atsani) ก็กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นที่นอกชายฝั่งของฟิลิปปินส์
ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี