นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน สั่งให้อังกฤษกลับสู่มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ หลังสหราชอาณาจักรมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผ่าน 1 ล้านคน ท่ามกลางความกังวลว่าระลอกสองของการแพร่ระบาดเสี่ยงทำให้ระบบสาธารณสุขรับมือไม่ไหว
สหราชอาณาจักรซึ่งเป็นชาติที่มียอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากที่สุดในยุโรป กำลังเผชิญกับอัตราการติดเชื้อมากกว่า 20,000 เคสต่อวัน และพวกนักวิทยาศาสตร์เตือนว่าในกรณีที่เลวร้ายสุด ดินแดนแห่งนี้อาจมีตัวเลขผู้เสียชีวิตเกินกว่า 80,000 คน
เวลานี้สหราชอาณาจักรมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 1,011,660 คน หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 21,915 คนในช่วง 24 ชั่วโมง เป็นประเทศที่ 9 ของโลกที่มีผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 1 ล้านคน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 46,555 คน หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 326 ราย
จอห์นสัน เร่งรีบเปิดแถลงข่าวที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรี ถนนดาวนิ่ง หลังข่าวล็อกดาวน์รั่วถึงสื่อมวลชน โดยเขาเปิดเผยว่าคำสั่งล็อกดาวน์ 1 เดือนทั่วอังกฤษ จะเริ่มขึ้นหลังผ่านพ้นเที่ยงคืนเช้ามืดวันพฤหัสบดี (5 พ.ย.) และมีบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 2 ธันวาคม
ในข้อจำกัดครั้งเข้มงวดที่สุดหนหนึ่งในประวัติศาสตร์ช่วงเวลาแห่งสันติของสหราชอาณาจักร ประชาชนจะได้รับอนุญาตออกจากที่พักอาศัยเฉพาะบางเหตุผลอย่างเจาะจง อย่างเช่นไปเรียน ทำงาน ออกกำลังกาย จับจ่ายซื้อของที่จำเป็น รวมไปพบแพทย์หรือดูแลผู้อ่อนแอ
“เราต้องลงมือตอนนี้” จอห์นสันกล่าว ขนาบข้างด้วย คริส วิตตี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษ และ แพทริก วัลแลนซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของเขา “จนกว่าเราจะลงมือทำ เราอาจเห็นตัวเลขผู้เสียชีวิตของประเทศ พุ่งแตะระดับหลายพันคนต่อวัน”
นอกจากนี้แล้ว เขาเผยด้วยว่ารัฐบาลจะคืนชีพโครงการอุดหนุนค่าจ้างฉุกเฉินเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อรับประกันว่าบรรดาแรงงานที่ถูกเลิกจ้างชั่วคราว ระหว่างมาตรการล็อกดาวน์ทั่วอังกฤษรอบใหม่จะได้รับค่าแรง 80% จากค่าจ้างทั้งหมด
จอห์นสันบอกว่า ร้านค้าสินค้าจำเป็น โรงเรียนและมหาวิทยาลัย จะยังคงเปิดทำการต่อไป แต่ในขณะที่กีฬาระดับอาชีพได้รับอนุญาตให้แข่งขันต่อ กีฬาสมัครเล่นสำหรับผู้ใหญ่และเด็กๆ จำเป็นต้องงดไปก่อน
ผับและร้านอาหารจะถูกปิดบริการ ยกเว้นแต่ซื้อกลับบ้าน ส่วนการเดินทางขาออกไปต่างประเทศก็จะถูกห้าม ยกเว้นแต่เดินทางไปทำงาน ขณะที่บรรดาร้านค้าปลีกที่ไม่มีความจำเป็น จะต้องปิดบริการทั้งหมด
สถานที่ทางศาสนาจะยังคงเปิดรับนักแสวงบุญแบบส่วนตัว แต่พิธีศพจะจำกัดเฉพาะสมาชิกครอบครัวที่ใกล้ชิดเท่านั้น
การกำหนดมาตรการที่เข้มข้นขึ้นของจอห์นสัน มีขึ้นหลังจากบรรดานักวิทยาศาสตร์เตือนว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศแห่งนี้กำลังมุ่งไปผิดทาง และความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีความจำเป็น เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากหวังว่าครอบครัวต่างๆ จะสามารถรวมตัวกันพร้อมหน้าในช่วงคริสต์มาส
มาตรการที่ประกาศออกมา นำพาอังกฤษอยู่ในสถานะเดียวกับฝรั่งเศสและเยอรมนี ที่กำหนดล็อกดาวน์ที่ประเทศไปก่อนหน้านี้ และมันมีความเข้มงวดพอๆกับคำสั่งล็อกดาวน์รอบแรก ที่ผลักเศรษฐกิจโลกในปีนี้ดิ่งเข้าสู่ครั้งถดถอยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
จอห์นสัน ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ฐานดำเนินการอย่างล่าช้ากว่าจะตัดสินใจล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบแรก ซึ่งบังคับใช้ระหว่างวันที่ 23 มีนาคมถึง 4 กรกฎาคม ทั้งนี้ จอห์นสัน ติดเชือ้โควิด-19 ในช่วงปลายเดือนมีนาคม และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในช่วงต้นเดือนเมษายน
คำสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายอย่างกะทันหันของนายกรัฐมนตรีรายนี้ ที่เคยเน้นย้ำมานานหลายเดือนว่ามันไม่มีความจำเป็น
เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เขาเพิ่งปกป้องยุทธศาสตร์กำหนดข้อจำกัดเฉพาะท้องถิ่น โดยบอกว่าต้องการหลีกเลี่ยงความทุกข์ทรมานจากการล็อกดาวน์ ทั้งนี้พอถูกถามว่าทำไมเขาถึงใช้เวลานานนักในการตัดสินใจล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบใหม่ จอห์นสันตอบว่าปัญหาก็คือ สมดุุลระหว่างความเสี่ยงของชีวิตกับความเสี่ยงของวิถีชีวิต
(ที่มา : รอยเตอร์)