พวกผู้ประท้วงเกิดปะทะกับตำรวจทางภาคเหนือของอิตาลี ในขณะที่การชุมนุมเกิดขึ้นทั่วประเทศเมื่อค่ำคืนวันจันทร์ (26 ต.ค.) ในการประท้วงต่อต้านข้อจำกัดต่างๆ ของรัฐบาลที่กำหนดออกมาเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระลอกสอง แม้ดินแดนแห่งนี้กำลังเผชิญสถานการณ์เลวร้าย ล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันแตะพุ่งเกิน 20,000 คนในวันอังคาร (27 ต.ค.)
ตำรวจเปิดเผยว่า ประชาชนราวๆ 2,500 คนออกมาชุมนุมในเมืองตูริน โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม หนึ่งในนั้นเป็นพวกพ่อค้าแม่ค้า เจ้าของร้านอาหาร และธุรกิจขนาดเล็กๆ ซึ่งรวมตัวประท้วงอย่างสันติ แต่อีกกลุ่มเป็นพวกแฟนบอลหัวรุนแรงของสโมสรยูเวนตุส และโตริโน ซึ่งจำนวนมากล้วนมีประวัติทางอาญา
หลายสิบคนในนั้นเป็นตำรวจ 10 นาย ได้รับบาดเจ็บในเหตุปะทะ ซึ่งพวกผู้ประท้วงหัวรุนแรงขวางปาก้อนหินและขวดเข้าใส่ตำรวจ พร้อมจุดไฟเผาถังขยะ ส่วนเจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตาและจับกุมพวกก่อเหตุวุ่นวายไป 10 ราย นอกจากนี้แล้วยังพบเห็นกลุ่มชายสวมฮู้ดออกอาละวาดทุบกระจกห้างร้านต่างๆ และปล้นสะดมสินค้าหรู ในนั้นรวมถึงห้างกุชชี และหลุยส์วิตตอง
นอกจากที่เมืองตูรินแล้ว ยังมีการประท้วงอีกจุดในเมืองมิลาน และทางตำรวจก็ได้ใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมเช่นกัน
เหตุปะทะเมื่อค่ำคืนวันจันทร์ (26 ต.ค.) มีขึ้นหลังจากรัฐบาลอิตาลีประกาศเคอร์ฟิวสำหรับบาร์และร้านอาหาร บังคับให้พวกเขาปิดบริการตั้งแต่เวลา 18.00 น. ส่วนโรงยิมและสระว่ายน้ำสาธารณะก็ต้องทำปิดการเช่นกัน ในขณะที่หลายแคว้นในนั้นรวมถึงลอมบาร์ดี ที่ตั้งของเมืองมิลาน และแคว้นปีเยมอนเต ที่ตั้งของเมืองตูริน ยังได้กำหนดข้อจำกัดระดับท้องถิ่นเพิ่มเติมด้วย
ในเมืองมิลาน ประชาชน 28 คนถูกนำตัวไปสอบปากคำตามหลังเหตุปะทะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่ามันเป็นการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยในนั้น 18 คนเป็นชาวอิตาลี อีก 3 คนเป็นชาวต่างชาติ ส่วนที่เหลือล้วนเป็นเยาวชน
แคว้นต่างๆ ทางเหนือของอิตาลี เป็นหนึ่งในพื้นที่แรกๆ ของโลกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อช่วงต้นปี และเคยอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์อันเข้มงวด ซึ่งประชานไม่สามารถออกจากที่พักอาศัยใดในกรณีที่ไม่มีความจำเป็น หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
ที่เมืองเนเปิลส์ ทางภาคใต้ของอิตาลี เกิดการประท้วงมาตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วและยังคงเดินหน้าต่อไปในวันจันทร์ (26 ต.ค.) ขณะที่ ลูเซียนา โลมอร์เกเซ รัฐมนตรีมหาดไทย เปิดเผยว่า ตำรวจ ทหาร และสื่อมวลชน ถูกโจมตีระหว่างการชุมนุมด้วย
ตำรวจเปิดเผยว่ายังมีการชุมนุมขนาดเล็กๆ ตามเมืองอื่นๆ อีกหลายแห่ง ในนั้นรวมถึงกรุงโรม เจนัว และปาแลร์โม
สถานการณ์ความไม่สงบในอิตาลี เกิดขึ้นในขณะที่ยุโรปกำลังดิ้นรนหาทางชะลอการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกสองซึ่งมีความรุนแรงอย่างมาก โดยหลายประเทศในทวีปแห่งนี้ตัดสินใจยกระดับข้อจำกัดต่างๆ อย่างเข้มงวด ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
อิตาลีก็เผชิญกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นเช่นกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยทางสำนักงานป้องกันพลเรือนของประเทศรายงานพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 17,000 รายในวันจันทร์ (26 ต.ค.) และ 21,994 คนในวันอังคาร (27 ต.ค.) สูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 564,778 คน ในนั้นเสียชีวิต 37,700 ราย หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 221 คน ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ที่อิตาลีมีผู้เสียชีวิตรายวันเกินกว่า 200 คน
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น)