รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(25 ต.ค)สุลต่านแห่งมาเลเซียไม่พระราชทานพระบรมราชานุญาตตามคำขอของนายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน ให้ประกาศใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉินสำหรับวิกฤตโควิด-19 แถมโดนนักวิจารณ์เซ็งแซ่ ยัสซินต้องการฉวยโอกาสใช้เพื่อประชับอำนาจ พรรคร่วมกดดันเรียกร้องให้นายกฯแดนเสือเหลืองลาออก
รอยเตอร์รายงานวันนี้26 ต.ค)ว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มูห์ยิดดิน ยัสซิน ได้ยื่นขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตต่อสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลละฮ์ ชะฮ์แห่งมาเลเซียให้ประกาศใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉินในวิกฤตโรคโควิด-19ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจประเทศ
แต่ทว่าในวันอาทิตย์(25)พบว่ายังดีเปอร์ตวนอากงไม่ทรงพระราชทานตามคำขอโดยทรงชี้ว่า ยังไม่เห็นถึงความจำเป็น
การออกมาเคลื่อนไหวล่าสุดของยัสซินทำให้บรรดานักวิจารณ์ต่างวิจารณ์เสียงเซ็งแซ่ว่าเขาต้องการใช้เพื่อเป็นข้ออ้างในการทำให้รัฐสภาหยุดการทำงานชั่วคราว ซึ่งการที่เขาถูกปฎิเสธในคำขอกลายเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่าอำนาจของเขากำลังถูกกัดกร่อน เกิดขึ้น 1 เดือนหลังจาก อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านมาเลเซีย ออกมาประกาศว่าเขามีเสียงข้างมากในมือเพื่อสนับสนุนให้ขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่แทนยัสซิน
นอกเหนือจากที่พระองค์จะทรงปฎิเสธการสั่งบังคับกฎหมายภาวะฉุกเฉินแล้ว สุลต่านแห่งมาเลเซียยังขอให้บรรดานักการเมืองหยุดการกระทำใดๆทางการเมืองที่อาจส่งผลกระต่อเสถียรภาพรัฐบาล โดยพระองค์ตรัสชื่นชมว่ารัฐบาลมาเลเซียของยัสซินสามารถจัดการวิกฤตโควิด-19ได้เป็นอย่างดี
แต่บรรดาผู้นำพรรคอื่นๆในรัฐบาลผสมของเขาและจากพรรคฝ่ายค้านได้วิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของยัสซินและเรียกร้องให้ยัสซินลาออกจากตำแหน่ง
โดยอาห์หมัด พูอัด ซาร์คาชี ( Ahmad Puad Zarkashi) แกนนำอาวุโสของพรรคอัมโนซึ่งเป็นพรรคที่ใหญ่สุดในรัฐบาลผสมของยัสซินกล่าวว่า “ช่างโชคดีที่ยังดีเปอร์ตวนอากงทรงไม่คล้อยตามไปตามเกมส์การเมืองที่อาจนำประเทศเข้าสู่วิกฤตที่ร้ายแรงมากขึ้น”
และเขากล่าวว่า “ความอยู่ดีมีสุขของประชาชนนั้นมีความสำคัญมากกว่า และเพื่อความถูกต้อง มูห์ยิดดินสมควรต้องลาออก”
ด้านนักการเมืองพรรคฝ่ายค้านมาเลเซีย หว่อง เฉิน(Wong Chen)แสดงความคิดว่า “คำขอของมูห์ยิดดินนั้นมีความมุ่งร้ายมีความชอบธรรมแล้วที่องค์สุลต่านจะทรงไม่พระราชทานบรมราชานุญาต และนายกรัฐมนตรีสมควรที่ต้องลาออกหรือสั่งปลดรัฐมนตรีที่เสนอให้ใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉิน”
รอยเตอร์รายงานว่า ยัสซินจะประชุมคณะรัฐมนตรีในวันจันทร์(26)ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลา 11.30 น. โดยในการประชุมจะทำการพิจารณาถึงการไม่พระราชทานบรมราชานุญาตขององค์สุลต่าน