เดตครั้งแรกของสาวจีนคนหนึ่งพังไม่เป็นท่า หลังจากที่เธอขนเอาญาติกว่า 20 คนไปร่วมวงรับประทานอาหารเพื่อลองใจหนุ่มว่าพร้อมจะทุ่มให้กับเธอหรือไม่
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า สาวคนนี้พาสมาชิกในครอบครัว 23 คนไปปรากฏตัวโดยไม่ได้บอกให้ฝ่ายชายทราบก่อน ทำให้ดินเนอร์ใต้แสงเทียนครั้งแรกกลายเป็นงานรวมญาติสุดหรรษาไปซะงั้น
สุดท้ายเรื่องราวกลับโกลาหล เมื่อฝ่ายชายฉวยโอกาสเดินหนีออกจากร้านไปเงียบๆ และปล่อยให้เธอรับผิดชอบจ่ายบิลค่าอาหารที่ญาติของเธอสั่งมากินแบบไม่ยั้ง รวมสนนราคา 19,800 หยวน หรือประมาณ 96,000 บาท
หนังสือพิมพ์ Taizhou Evening News รายงานว่า หญิงสาวผู้ไม่ประสงค์ออกนามได้นัดเดตกับหนุ่มแซ่ หลิว จากมณฑลเจ้อเจียง โดยแม่ของหลิวเป็นคนจัดแจงหาคู่ครองให้กับลูกชายวัย 29 ปี ซึ่งโสดมาสักระยะหนึ่งแล้ว
ก่อนที่จะพบหน้ากัน หลิวได้บอกกับฝ่ายหญิงว่าเขาจะเป็นคนเลี้ยง โดยเข้าใจว่ามันจะเป็นการดินเนอร์แบบโรแมนติกสองต่อสอง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหนุ่มถึงกับไปไม่เป็นเมื่อหญิงสาวขนญาติกว่า 20 ชีวิตมาด้วย โดยไม่บอกกันล่วงหน้า
สาวรายนี้ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีนว่า เธอแค่อยากจะทดสอบดูเท่านั้นว่า หลิว ใจกว้างพอหรือไม่ แต่เขากลับหนีออกจากร้านไปดื้อๆ แถมยังปิดโทรศัพท์ด้วย
เมื่อติดต่อได้ในภายหลัง หลิวยอมที่จะช่วยจ่ายค่าอาหารเพียง 4,398 หยวน สำหรับ 2 โต๊ะ ส่วนที่เหลืออีก 15,402 หยวนฝ่ายหญิงยังต้องจ่ายเอง
เว็บไซต์จีนหลายแห่งได้ตีแผ่เรื่องราวโอละพ่อนี้จนกลายเป็นไวรัลในสื่อสังคมออนไลน์ และชาวเน็ตจีนต่างถกเถียงกันว่าใครควรเป็นคนจ่ายเงินกันแน่ ในกรณีแบบนี้
ชาวเน็ตคนหนึ่งบอกว่า “โดยมารยาทแล้วผู้ชายควรจ่าย แต่การที่ฝ่ายหญิงพาญาติมาตั้ง 23 คนก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง” ขณะที่อีกคนบอกว่า “ถ้าหลังจากออกเดตแล้วทั้งสองคนชอบพอกัน ฝ่ายชายก็ควรจะจ่าย”
อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตบางคนแย้งว่า “ปกติแล้วผู้หญิงอาจจะพาเพื่อนสนิทไป 1-2 คนเพื่อแก้เขิน และเราในฐานะสุภาพบุรุษควรจะเป็นฝ่ายเลี้ยงพวกเธอ แต่ถ้าผู้หญิงพาคนมาด้วย 7-8 คน คุณก็ควรเดินหนีออกมาตั้งแต่แรก เพราะเธอไม่จริงใจอยู่แล้ว”
ที่มา : Daily Mail, whatsonweibo