คู่หมั้นของ จามาล คาช็อกกี นักหนังสือพิมพ์ชาวซาอุดีอาระเบียผู้ล่วงลับ และกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่เขาก่อตั้ง ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯในวันอังคาร (20 ต.ค.) โดยกล่าวหามกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้สั่งฆ่าเขา
ในการฟ้องแพ่ง ซึ่งเรียกค่าเสียหายจำนวนหนึ่งจากมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ยังระบุชื่อชาวซาอุดีอาระเบียคนอื่นๆอีกมากกว่า 20 รายในฐานะจำเลย และมันมาพร้อมกับความยุ่งยากซับซ้อนต่างๆ นานา ในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับซาอุดีอาระเบีย ทั้งในเรื่องเหตุฆาตกรรมโหดคาช็อกกีในปี 2018, ประวัติด้านสิทธมนุษยชนของริยาด และบทบาทของซาอุดีอาระเบียในสงครามกลางเมืองเยเมน รวมถึงประเด็นอื่นๆ
สถานทูตซาอุดีอาระเบียยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห้นต่อการยื่นฟ้องดังกล่าว ในขณะที่มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้เป็นคนออกคำสั่งฆ่าคาช็อกกี
คาช็อกกี ซึ่งมักวิพากษ์วิจารณ์นโยบายต่างๆ ของมกุฎราชกุมาร ผู้ปกครองโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย ในคอลัมน์ที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ถูกฆ่าหั่นศพในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียประจำอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเขาเดินทางไปยังสถานกงสุลเพื่อไปขอเอกสารที่จำเป็นสำหรับสมรสกับคู่หมั้นของเขา ฮาทิซ เชนกิซ ซึ่งเป็นพลเมืองตุรกี
เซนกิซและองค์กรกลุ่มประชาธิปไตยสำหรับโลกอาหรับในปัจจุบัน (DAWN) กลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ก่อตั้งโดยคาช็อกกี ซึ่งเป็นพลเมืองของเวอร์จิเนียอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐฯในวอชิงตัน ดี.ซี.
นอกเหนือจากมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย พวกเขายังระบุชื่อผู้ช่วยของเจ้าชายและเจ้าหน้าที่หลายคนในฐานะจำเลย ขณะที่คนเหล่านี้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดในซาอุดีอาระเบียฐานฆาตกรรม และคดีในซาอุดีอาระเบียได้ปิดไปแล้ว
คำฟ้องกล่าวหาว่ามกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย จำเลยร่วมและคนอื่นๆ วางแผนปิดปากนายคาช็อกดีอย่างถาวร ไม่ให้อยู่รอดเกินฤดูร้อนปี 2018 หลังพบว่าเขามีแผนใช้กลุ่มสิทธิมนุษยชน DAWN เป็นฐานสำหรับสนับสนุนปฏิรูประชาธิปไตยและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
(ที่มา:รอยเตอร์)