รอยเตอร์ - ผู้ตรวจสอบของสหประชาชาติ 2 คน เตรียมแถลงยืนยันวันนี้ (22 ม.ค.) ว่าพบหลักฐานชัดเจนพอที่จะสรุปว่าซาอุดีอาระเบียคือตัวการแฮกโทรศัพท์ เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ amazon.com ขณะที่สถานทูตซาอุฯ ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ยืนกรานปฏิเสธ และชี้ว่าเป็นข้อครหาที่ “ไร้สาระ”
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า แอกเนส คัลลามาร์ด ผู้รายงานพิเศษยูเอ็นด้านการวิสามัญฆาตกรรม และ เดวิด คาเย ผู้รายงานพิเศษยูเอ็นด้านเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เตรียมออกคำแถลงในวันนี้ (22) ว่าพวกเขาได้ทราบผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาที่น่าเชื่อถือจากทีมความปลอดภัยของ เบซอส ซึ่งสรุปว่าโทรศัพท์ของบิ๊กบอสแอมะซอนน่าจะถูกแฮกหลังได้รับคลิปวิดีโอที่ถูกส่งมาจากบัญชี WhatsApp ของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ
รายงานซึ่งจัดทำโดยบริษัทที่ปรึกษา FTI Consulting ระบุว่า มีข้อมูลจำนวนมากถูกดึงออกไปจากโทรศัพท์มือถือของ เบซอส ราวๆ 1 เดือนหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์มาเมื่อกลางปี 2018
ผู้เชี่ยวชาญภายนอกซึ่งให้คำปรึกษากับยูเอ็นเห็นตรงกันว่าแม้คดีนี้จะยังไม่อาจสรุปยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีหลักฐานชัดเจนมากพอที่จะขอเปิดการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบ
รายงานฉบับนี้คาดว่าจะยิ่งซ้ำเติมความบาดหมางระหว่าง เบซอส ซึ่งเป็นอภิมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกกับราชอาณาจักรซาอุฯ หลังเกิดกรณีฆาตกรรม จามาล คาช็อกกี นักหนังสือพิมพ์ชาวซาอุฯ ที่เขียนคอลัมน์ให้กับวอชิงตันโพสต์ซึ่ง เบซอส เป็นเจ้าของ
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนซึ่งเสนอข่าวนี้เป็นเจ้าแรกระบุว่า ข้อความเข้ารหัสซึ่งถูกส่งมาจากเบอร์โทรศัพท์ของมกุฎราชกุมารซาอุฯ ได้ปล่อยมัลแวร์เข้าไปในโทรศัพท์ของ เบซอส และดึงข้อมูลส่วนตัวออกไปเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม สถานทูตซาอุฯ ประจำสหรัฐฯ ยังคงยืนกรานปฏิเสธข้อมูลดังกล่าว
“ที่สื่อเอาไปรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ราชอาณาจักรซาอุฯ อยู่เบื้องหลังการแฮกโทรศัพท์ของคุณ เจฟฟ์ เบซอส เป็นข้อหาที่ไร้สาระ (absurd) เราขอเรียกร้องให้ตรวจสอบข้ออ้างเหล่านี้ เพื่อความจริงจะได้ปรากฏ” สถานทูตซาอุฯ ทวีตข้อความ
คัลลามาร์ด และ คาเย จะมีถ้อยแถลงเกี่ยวกับรายงานของเดอะการ์เดียนภายในวันนี้ (22) และจะเสนอผลการสอบสวนฉบับเต็มต่อยูเอ็นในเดือน มิ.ย.
ความสัมพันธ์ระหว่างบอสแอมะซอนกับรัฐบาลซาอุฯ เริ่มย่ำแย่ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่แล้ว หลังจากวอชิงตันโพสต์เสนอข่าวแบบกัดไม่ปล่อยเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม คาช็อกกี ซึ่งเกิดขึ้นภายในสถานกงสุลซาอุฯ ณ นครอิสตันบูลเมื่อเดือน ต.ค.ปี 2018
หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของ เบซอส ให้สัมภาษณ์ในขณะนั้นว่า รัฐบาลซาอุฯ สามารถเข้าถึงโทรศัพท์ของ เบซอส และดึงเอาข้อมูลส่วนตัวออกไป รวมถึงข้อความที่ เบซอส ส่งถึง ลอเรน ซานเชส อดีตผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ซึ่งนิตยสารแท็บลอยด์ เนชัลแนล เอ็นไควเรอร์ ออกมาแฉว่าเป็นกิ๊กของเขา
ทั้งนี้ เนชันแนลเอ็นไควร์เรอร์ยังได้เผยแพร่ภาพและข้อความที่ทั้งคู่ส่งถึงกันทางโทรศัพท์ และคาดว่าการเปิดโปงนี้เองเป็นต้นเหตุให้ เบซอส ต้องหย่าร้างกับ ‘แมคเคนซี’ ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่อยู่กินกันมาหลายสิบปี
รัฐบาลซาอุฯ ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฉเรื่องบิ๊กบอสแอมะซอนนอกใจภรรยา