xs
xsm
sm
md
lg

ทวิตเตอร์ลบคำแนะนำที่ปรึกษาทรัมป์ อ้าง “หน้ากาก” ไม่ช่วยสกัดโควิด แม้ยอดติดเชื้อพุ่งต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(แฟ้มภาพ) นพ.สกอตต์ แอตลาส (ขวา) ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเปิดแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2020
ทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ (18 ต.ค.) ลบข้อความที่ชี้นำทำให้เข้าใจผิด ดูเบาประสิทธิผลของการสวมหน้ากากป้องกันโควิด-19 ที่โพสต์โดยที่ปรึกษาด้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แม้นตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน

แม้รัฐบาลของทรัมป์พยายามปฏิเสธคำครหาว่าพวกเขาส่งสารที่ผสมผสานเกี่ยวกับการสวมหน้ากาก จนกลายเป็นตัวบ่อนทำลายความพยายต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่ล่าสุด นายแพทย์สกอตต์ แอตลาส ที่ปรึกษาของทรัมป์ กลับยังเดินหน้าลดทอนความสำคัญของการสวมหน้ากากผ่านการโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์เมื่อวันเสาร์ (17 ต.ค.) โดยบอกว่า “หน้ากากได้ผลหรือไม่? ไม่”

ทางทวิตเตอร์ อิงก์ ลบทวีตดังกล่าวในวันอาทิตย์ (18 ต.ค.) โดยระบุว่ามันละเมิดนโยบายชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งเล็งเป้าหมายจัดการกับคำแถลงต่างๆ ที่ได้รับการยืนยันจากพวกผู้เชี่ยวชาญในประเด็นนั้นๆ ว่า “เป็นเท็จ” และ “ชี้นำในทางที่ผิด”

ทำเนียบขาวไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อการตัดสินใจดังกล่าวของทวิตเตอร์

แอตลาส ดูเบาการสวมหน้ากาก มาตรการสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองอย่างกว้างขวางจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข แต่ตัวประธานาธิบดีไม่ได้กระตือรือร้นสนับสนุนเท่าไหร่

ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกัน กำลังต่อสู้แข่งขันกับ โจ ไบเดน ตัวแทนจากเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งจัดขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ที่ทุบทำลายเศรษฐกิจย่อยยับและคร่าชีวิตอเมริกันชนแล้วมากกว่า 217,000 คน

จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ โดยเมื่อวันศุกร์ (16 ต.ค.) มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายวัน 69,400 คน เพิ่มขึ้นจากระดับ 46,000 คนของเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมในอเมริกา พุ่งผ่าน 8 ล้านคนแล้ว

ประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 3 คืนในช่วงต้นเดือนตุลาคม พูดซ้ำๆในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าประเทศของเขากำลังพลิกฟื้นจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แม้ข้อมูลจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น

เมื่อวันอาทิตย์ (18 ต.ค.) เป็นอีกครั้งที่ทรัมป์อ้างว่าเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นระลอกล่าสุด เป็นผลจากการยกระดับการตรวจเชื้อ แต่พวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่าจากตัวเลขผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น และอัตราประชาชนที่มีผลตรวจออกมาเป็นบวก บ่งชี้ว่าเคสผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มขึ้นจริงๆ

“สหรัฐฯ มีเคสผู้ติดเชื้อมากกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งพวกสื่อมวลชนข่าวปลอมเชยๆ กระโจนเข้าใส่รายวัน เพราะว่ามีการตรวจเชื้อในระดับสูงและใช้ต้นทุนสูงมาก” เขาเขียนบนทวิตเตอร์

อย่างไรก็ตาม นพ.สกอตต์ กอตเลียบ อดีตผู้อำนวยการองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ เตือนว่าบางทีอเมริกาอาจจะเข้าสู่ขั้นเลวร้ายของการแพร่ระบาด หากปราศจากนโยบายระดับชาติอย่างหนึ่งอย่างใด “ผมคิดว่าในช่วง 3 เดือนข้างหน้ามันจะท้าทายอย่างมาก จากที่เราเห็นยังไม่มีกั้นสุดท้ายสกัดการแพร่ระบาด”

เขาบอกว่าจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกำลังเพิ่มขึ้นใน 42 รัฐ และยังไม่มีวัคซีนใดๆ ที่สามารถขัดขวางการแพร่ระบาดได้ หนำซ้ำทำเนียบขาวยังออกมาต่อต้านการการสวมหน้ากากอันเป็นสากล ต่อต้านการตรวจเชื้อบุคคลที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการเล็กๆ น้อย แถมต้องการให้กลับมาเปิดธุรกิจและสถาบันการศึกษาอีกครั้ง

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น