ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ประกาศเคอร์ฟิวยามค่ำคืนครอบคลุมประชากร 1 ใน 3 ของประเทศ ในวันพุธ (14 ต.ค.) เพื่อจัดการกับการแพร่ระบาดระลอกสองของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ระบุตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับความรื่นเริง
ไวรัสกำลังแพร่ระบาดตามงานปาร์ตี้ต่างๆ และกิจกรรมการรวมตัวของผู้คน ประธานาธิบดีระบุพร้อมบอกว่าเวลานี้มาตรการเคอร์ฟิวมีความจำเป็นในกรุงปารีสและเมืองใหญ่อื่นๆ อีก 8 แห่งของฝรั่งเศส เพื่อชะลออัตราการติดเชื้อหรือลดความเสี่ยงที่โรงพยาบาลต่างๆ จะรองรับผู้ติดเชื้อไม่ไหว
มาครงบอกว่า เคอร์ฟิวจะระงับปาร์ตี้ต่างๆ ชั่วคราว การสังสรรค์ที่มีผู้เข้าร่วมทีละราวๆ 50 หรือ 60 คน เพราะกิจกรรมงานรื่นเริงยามค่ำคืนเหล่านี้ เป็นตัวเร่งการแพร่ระบาด
การประกาศเคอร์ฟิวของผู้นำฝรั่งเศส ซึ่งมีผลตั้งแต่วันเสาร์ (17 ต.ค.) เป็นต้นไป และกำหนดเวลาตั้งแต่ 21.00-06.00 น. มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรอบใหม่
เบื้องต้นประกาศเคอร์ฟิวจะมีระยะเวลานาน 4 สัปดาห์ แต่ มาครง เผยว่ารัฐบาลอาจจะขอรัฐสภาขยายเวลาเพิ่มเติมอีก 2 สัปดาห์ นั่นหมายความว่ามาตรการนี้จะบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม “หมายความว่า เราไม่สามารถออกไปร้านอาหารหลัง 21.00 น. เราไม่สามารถไปยังที่พักของเพื่อนคนหนึ่งคนใด เราไม่สามารถออกไปปาร์ตี้ได้” ประธานาธิบดีกล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ
ฝรั่งเศสก็เหมือนกับประเทศยุโรปอื่นๆ ที่กำลังกลัดกลุ้มหาทางชะลอการแพร่ระบาดของไวรัส และลดความตึงเครียดแก่ระบบสาธารณสุขที่กลับมาแออัดอีกครั้ง ในขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องหาทางเดินหน้าเปิดเศรษฐกิจมูลค่า 2.3 ล้านล้านยูโรต่อไป และปกป้องประชาชนไม่ให้ตกงาน
ในวันพุธ (14 ต.ค.) ฝรั่งเศสรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 22,591 คน ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 6 วัน ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเกินกว่า 20,000 คน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 32,000 คน
ประกาศเคอร์ฟิวมีผลบังคับใช้กับ ปารีส, มาร์กเซย์, ตูลูส, เกรโนเบิล, มงต์เปลิเยร์, รูอ็อง, ลียง, แซงต์เอเตียน และลีลล์ ซึ่งมีประชากรรวมกันราว 20 ล้านคน
ประธานาธิบดีมาครง ยอมรับว่า ฝรั่งเศสกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่น่ากังวล “เราจำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มข้นขึ้น เพื่อควบคุมการคืนชีพของไวรัสอย่างเต็มที่” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม มาครงบอกว่า การเดินทางที่มีความจำเป็นระหว่างเคอร์ฟิวยังคงได้รับอนุญาต และไม่มีข้อจำกัดต่างๆ ต่อการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และประชาชนจะยังคงสามารถเดินทางระหว่างแคว้นต่างๆ โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ
กระนั้นใครก็ตามที่ละเมิดมาตรการเคอร์ฟิวจะถูกปรับเงิน 135 ยูโร (ราว 4,900 บาท)
มาครงบอกว่าเป้าหมายคือลดอัตราการติดเชื้อใหม่ จากปัจจุบันอยู่ที่ราวๆ 20,000 คนต่อวัน ให้เหลือประมาณ 3,000 คนต่อวัน และลดภาระที่ห้องไอซียูตามโรงพยาบาลต่างๆ ต้องแบกรับ
รัฐบาลฝรั่งเสศเคยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาแล้วในเดือนมีนาคม ครั้งที่จำนวนคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลใกล้แตะระดับสูงสุด โดยในตอนนั้นทางการใช้อำนาจพิเศษกำหนดให้ผู้คนต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ยกเว้นแต่บุคคลที่มีหน้าที่การงานที่มีความจำเป็น ออกไปซื้ออาหาร และอนุญาตให้ออกมาออกกำลังกายนอกบ้านได้ 1 ชั่วโมงต่อวัน
ประธานาธิบดีฝรั่งเศสบ่งชี้ว่า การล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกรอบเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ “เราจะผ่านพ้นเรื่องนี้ หากว่าเราร่วมมือกัน”
(ที่มา : รอยเตอร์)
