กรุงมาดริดจะกลายเป็นเมืองหลวงแห่งแรกในยุโรปที่กลับสู่ภาวะล็อกดาวน์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากผู้นำแคว้นในวันพฤหัสบดี (1 ต.ค.) ยินยอมแบบไม่สู้เต็มใจปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลกลาง ห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็น เข้าและออกจากเมืองหลวงของสเปน
เพื่อต่อสู้กับตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่พุ่งขึ้น กรุงมาดริดและเทศบาลนครใกล้เคียงอีก 9 แห่ง จะปิดชายแดนไม่ต้อนรับนักเดินทางจากภายนอกในกรณีที่ไม่มีความจำเป็น โดยอนุญาตเดินทางมาเยือนเฉพาะมาทำงาน, มาโรงเรียน, ทางการแพทย์หรือจับจ่ายซื้อของเท่านั้น พร้อมกับร่นเคอร์ฟิวสำหรับร้านอาหารและบาร์ต่างๆ ให้เร็วขึ้น จากเดิม 01.00 น. เป็น 23.00 น.
อย่างไรก็ตาม อิซาเบล ดิอาซ อายุโซ ประธานชุมชนกรุงมาดริด จะยื่นอุทธรณ์คัดค้านมาตรการล็อกดาวน์ในศาล นั่นหมายความว่ายังมีความไม่แน่นอน และประเด็นโต้เถียงทางการเมืองอันดุเดือดที่ก่อความโกรธเคืองแก่ชาวบ้านในเมืองหลวงยังห่างไกลจากจุดจบ
“เราเป็นเหยื่อของการไม่เตรียมตัว” ชาวบ้านคนหนึ่งระบุ พร้อมบอกว่าบรรดานักการเมืองเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ทะเลาะเบาะแว้งกันแทนที่จะมอบเงินทุนที่จำเป็นแก่คณะแพทย์เพื่อต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่า ภูมิภาคมาดริดรายงานมีผู้ติดเชื้อ 859 เคสต่อประชากรทุกๆ 100,000 คน ส่งผลให้เมืองหลวงของสเปนแห่งนี้กลายเป็นจุดร้อนของการแพร่ระบาดที่เลวร้ายที่สุดในยุโรป ขณะที่ก่อนหน้านี้ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ระลอกแรก สเปนก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อสูงสุดในยุโรปเช่นกัน
รัฐบาลสังคมนิยมของสเปน ตัดสินใจในช่วงค่ำวันพุธ (30 ก.ย.) จะกำหนดมาตรการล็อคดาวน์รอบใหม่ในกรุงมาดริด เมืองที่มีประชากรมากกว่า 3 ล้านคน แต่มันสร้างความไม่พอใจแก่รัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อวิถีชีวิตภายในเมืองที่เลื่องชื่อด้านบาร์, ร้านอาหารและความคึกคักของนักท่องเที่ยวในช่วงเวลาปกติ
ดิอาซ อายุโซ บอกกับที่ประชุมสภาแคว้นในวันพฤหัสบดี (1 ต.ค.) ว่าในตอนนี้เธอไม่มีทางเลือก ยกเว้นแต่ปฏิบัติตามคำสั่งล็อกดาวน์ “แคว้นแห่งนี้ไม่ใช่ขบถ และจะปฏิบัติตามทุกคำสั่งอย่างเข้มงวด” เธอกล่าว “แต่แน่นอน เราจะยื่นคัดค้านต่อศาล ยืนหยัดเพื่อสิทธิของชาวมาดริด”
อัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในกรุงมาดริด สูงกว่าทั่วสเปนถึงเท่าตัว ในขณะที่เวลานี้ สเปนพบผู้ติดเชื้อแล้ว 769,188 คน สูงสุดในยุโรปตะวันตก และเสียชีวิต 31,791 คน
แคว้นมาดริดมีเวลาจนถึงช่วงเย็นวันศุกร์ (2 ต.ค.) ในการเผยแพร่รายละเอียดสุดท้ายของมาตรการล็อคดาวน์ ในนั้นรวมถึงวันที่จะเริ่มบังคับใช้
ข้อบังคับใหม่นี้จะใช้กับทุกเทศบาลนครของสเปนที่มีประชากรเกินกว่า 100,000 คน ซึ่งมีอัตราการติดเชื้อเกินกว่า 500 คนต่อประชากร 100,000 คนในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
แม้กรุงมาดริดกำลังกลับเข้าสู่ภาวะล็อคดาวน์ แต่มันจะไม่เข้มงวดเท่ากับเมื่อตอนการแพร่ระบาดระลอกแรกของโควิด-19 โดยคราวนั้นผู้คนต้องกักตนเองอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลามากกว่า 6 สัปดาห์ นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม
ความเคลื่อนไหวของสเปน มีขึ้นในขณะที่ประเทศต่างๆ ทั่วยุโรปหวนกลับมาใช้ข้อบังคับรอบใหม่ในเมืองต่างๆ อันพลุกพล่านของพวกเขาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่ามา ในนั้นรวมถึงจำกัดจำนวนคนในร้านอาหาร และบังคับสวมหน้ากากยามอยู่ในสถานที่ต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อตอบโต้จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น
(ที่มา : รอยเตอร์)