รอยเตอร์ - สายการบินยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ทั้ง ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส และอเมริกัน แอร์ไลน์ส ประกาศเริ่มต้นที่จะสั่งปลดพนักงานออกชั่วคราวจำนวน 32,000 คนในวันพฤหัสบดี (1 ต.ค.) หลังความหวังเลือนลางที่จะได้การช่วยเหลือในนาทีสุดท้ายจากวอชิงตัน
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (1 ต.ค.) จากวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาดทำให้อุตสาหกรรมการเดินทางอากาศตกอยู่ในสภาพวิกฤตซึ่งล่าสุดบริษัทสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส และอเมริกัน แอร์ไลน์สออกมายอมรับว่าไปต่อไม่ไหวต้องเริ่มต้นสั่งปลดพนักงานออกชั่วคราวจำนวน 32,000 คน
แต่อย่างไรก็ตาม ในบันทึกภายในบริษัทของวันพุธ (30 ก.ย.) ที่รอยเตอร์ได้เห็นระบุว่า พนักงานเหล่านี้อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมที่จะกลับเข้ามาทำงานต่อได้อีกครั้งหากว่าข้อตกลงได้รับการช่วยหลือจากวอชิงตันสามารถบรรลุ ซึ่งการการสั่งปลดออกชั่วคราวกระทบ 13% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดก่อนการเกิดวิกฤตโควิด-19
รอยเตอร์รายงานว่า พนักงานอีกจำนวนหลายหมื่นคนจากบริษัทสายการบินเหล่านี้และสายการบินอื่นๆที่รวมถึง เดลตา แอร์ไลน์ส และเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส ได้ยอมรับการซื้อขายหุ้นของบริษัท (buyouts) หรือการขอลาพัก (leaves of absence) ในการลดจำนวนคนระหว่างที่สายการบินกำลังต่อสู้กับวิกฤตโรคระบาด
ที่ผ่านมาบรรดาบริษัทสายการบินสหรัฐฯ ได้ร้องขอความช่วยเหลือ 25 พันล้านดอลลารจากวอชิงตันเพื่อสนับสนุนการจ่ายเงินเดือนเพื่อปกป้องตำแหน่งงานเป็นเวลาอีก 6 เดือนหลังจากที่แพ็กเกจช่วยเหลือปัจจุบันที่มีเงื่อนไขห้ามการสั่งปลดออกชั่วคราว (furlough) กำลังจะหมดอายุลงในเที่ยงคืนนี้
ซึ่งก่อนหน้ารัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ สตีฟ มนูชิน กล่าวว่า การเจรจากับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต แนนซี เพโลซี นั้นมีความก้าวหน้าในแพกเกจช่วยเหลือจาก 2 พรรคร่วม ถึงแม้ว่ายังไม่มีการบรรลุในข้อตกลงและอีกทั้งผู้นำเสียงข้างมากสภาสูงสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน มิตช์ แม็กคอนเนล เรียกแพ็กเกจช่วยเหลือวิกฤตโควิด-19 มูลค่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ว่า “เป็นการยากที่จะยอมรับ”
ในบันทึกภายในถึงพนักงานจากผู้บริหารสูงสุดของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส ดัก ปาร์เกอร์ (Doug Parker) เปิดเผยว่า มนูชินได้แจ้งกับเขาว่า มนูชินและเพโลซียังคงเจรจาต่อสำหรับแพ็กเกจช่วยเหลือโควิด-19 ที่จะรวมถึงการขยายความช่วยเหลือให้กับบรรดาบริษัทสายการบินและเชื่อว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้อีกไม่กี่วันข้างหน้า
แต่ปาร์กเกอร์กล่าวว่า “ช่างเป็นที่โชคร้ายที่ว่าไม่มีหลักประกันเพื่อรับรองถึงความพยายามเหล่านี้จะบรรลุผล”
อเมริกัน แอร์ไลน์ส ปลดพนักงานออกชั่วคราว 19,000 คน ที่ในจำนวนนี้รวมถึงนักบิน 1,600 คน และมีพนักงานไม่ต่ำกว่า 13,000 คนของยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ถูกเลิกจ้างชั่วคราว แต่ไม่มีนักบินหลังการเจรจาที่บรรลุในสัปดาห์นี้
“พรุ่งนี้พนักงานในส่วนสำคัญของการบินร่วมหลายหมื่นคนจะตื่นขึ้นมาโดยที่ไม่มีงานทำหรือไม่มีประกันสุขภาพ และอีกจำนวนมากกว่าหลายหมื่นคนจะไม่ได้รับเงินเดือน” ซารา เนลสัน (Sara Nelson) ประธานสมาพันธ์พนักงานต้อนรับเครื่องบิน CWA กล่าว พร้อมกลับเรียกร้องให้กับสมาชิกรัฐสภาคองเกรสเร่งบรรลุข้อตกลง
รอยเตอร์รายงานว่า พบว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนองบช่วยเหลือจำนวน 20 พันล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทสายการบินสหรัฐฯ
“จำนวนเงิน 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในข้อเสนอล่าสุดต่อสายการบินจะสามารถต่ออายุให้กับพวกเขาไปได้อีก 6 เดือน” หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวของทรัมป์ มาร์ค เมโดวส์ (Mark Meadows) แถลงวานนี้ (30 ก.ย.)
และเมโดว์สยังเปิดเผยต่อว่า ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้รับการอนุมัติแล้วสภาสูงที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากและจากสภาล่างที่มีพรรคเดโมแครตคุมเพื่อต่ออายุให้หน่วยงานรัฐสามารถทำงานต่อไปได้จนถึงวันที่ 11 ธ.ค.นั้นทางทำเนียบขาวได้รับ และประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมายงบประมาณชั่วคราว
ทั้งนี้ พบว่าบริษัทสายการบินสหรัฐฯ ในเวลานี้ทำการบินแค่ครึ่งหนึ่งของปี 2019 และประสบปัญหาผู้โดยสารลดลงถึง 68%
และผลกระทบวิกฤตโควิด-19 ที่มีต่อตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมการบินคาดว่าอาจมีถึง 46 ล้านตำแหน่งทั่วโลก อ้างอิงจากกลุ่มปฏิบัติการขนส่งทางอากาศ (Air Transport Action Group) ที่เผยแพร่ออกมาในวันพุธ (30 ก.ย.)