รัฐบาลเกาหลีใต้ขยายพื้นที่ค้นหาศพเจ้าหน้าที่ประมงซึ่งถูกทหารเกาหลีเหนือยิงเสียชีวิตวันนี้ (28 ก.ย.) ขณะที่ประธานาธิบดี มุน แจอิน เสนอให้มีการฟื้นฟูสายด่วนทางทหารกับเกาหลีเหนือเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต
กองทัพเกาหลีใต้กล่าวหาทหารโสมแดงว่ายิงชายคนดังกล่าว ก่อนจะราดน้ำมันใส่ศพและจุดไฟเผาใกล้กับเส้นแบ่งเขตแดนทางทะเลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นการป้องกันไม่ให้มีผู้ใดนำเชื้อโควิด-19 เข้าไปแพร่
เจ้าหน้าที่โซลเรียกร้องให้เปียงยางยอมตั้งคณะผู้สืบสวนร่วมเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ หลังจากที่ผู้นำ คิม จองอึน ถึงขั้นออกมาขออภัยต่อเกาหลีใต้ และยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
ประธานาธิบดี มุน แถลงวันนี้ (28 ก.ย.) ว่าควรจะมีการฟื้นฟู ‘ฮอตไลน์’ กับเกาหลีเหนือเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน โดยเปียงยางนั้นเป็นฝ่ายตัดสายด่วนกับเกาหลีใต้ไปเมื่อต้นปีนี้ หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกลับมาตึงเครียด
มุน ระบุด้วยว่า คำขออภัยจากผู้นำ คิม “แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นอะไรที่พิเศษมาก” ซึ่งอาจตีความได้ว่าผู้นำโสมแดงเองก็ไม่อยากเห็นความสัมพันธ์เลวร้ายลงไปกว่าที่เป็นอยู่
อย่างไรก็ตาม จนถึงวันนี้ (28) เปียงยางก็ยังไม่ตอบตกลงตั้งทีมสืบสวนร่วมกับเกาหลีใต้ และเมื่อวานนี้ (27) สื่อโสมแดงยังวิจารณ์ปฏิบัติการค้นหาของกองทัพเรือโสมขาวว่ารุกล้ำเข้าไปในน่านน้ำเกาหลีเหนือนอกชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรด้วย
“เราไม่เคยล้ำเส้นแนวจำกัดตอนเหนือ (Northern Limit Line) เข้าไปในฝั่งเกาหลีเหนือ แต่อันที่จริงทั้ง 2 ฝ่ายก็มีความเข้าใจขัดแย้งกันเกี่ยวกับเส้นที่ว่านี้” ลี ฮองเชีย หัวหน้าหน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้ อ้างถึงข้อพิพาทเรื่องเส้นแบ่งเขตแดนทางทะเลที่มีมาตั้งแต่หลังสงครามเกาหลีสิ้นสุดลงในปี 1953
เกาหลีใต้ได้ส่งเครื่องบิน 6 ลำ และเรืออีก 45 ลำ ออกค้นหาร่างเจ้าหน้าที่ประมงผู้สูญหาย ขณะที่รัฐบาลโสมแดงระบุวานนี้ (27) ว่ากำลังติดตามค้นหาศพชายคนดังกล่าวเช่นกัน และกำลังพิจารณาว่าจะส่งศพคืนให้แก่เกาหลีใต้ด้วยวิธีใดหากหาพบ
ที่มา: รอยเตอร์