เอเจนซีส์ – โควิดยังแผลงฤทธิ์หนักในทวีปอเมริกา ล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในโคลอมเบียและอาร์เจนตินาทะลุ 800,000 คน และ 700,000 คนตามลำดับ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกจ่อหลัก 1 ล้านคนเร็วๆ นี้ โดยเกือบ 20% อยู่ในอเมริกา
กระทรวงสาธารณสุขโคลอมเบียแถลงเมื่อวันเสาร์ (26 ก.ย.) ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดอยู่ที่ 806,038 คน ในจำนวนนี้ยังรักษาตัวอยู่ 78,956 คน สำหรับยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 25,296 คน
โคลอมเบียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดอันดับ 5 ของโลก ขณะที่ประเทศ 5 ใน 10 ที่โควิดระบาดรุนแรงที่สุดในโลกอยู่ในอเมริกากลางหรืออเมริกาใต้ ได้แก่ บราซิล โคลอมเบีย เปรู เม็กซิโก และอาร์เจนตินา ส่วนชิลีติดอันดับที่ 12
โคลอมเบียเริ่มล็อกดาวน์ตั้งแต่เดือนมีนาคม และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการกักตัวหลวมๆ “เฉพาะส่วน” โดยอนุญาตให้กินอาหารในร้านอาหารได้และอนุญาตเที่ยวบินระหว่างประเทศ แต่ยังแบนการจัดคอนเสิร์ตหรือกิจกรรมขนาดใหญ่ รวมทั้งยังปิดพรมแดนทางบกและทางน้ำ
ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ของอเมริกา เผยว่า อาร์เจนตินามีผู้ติดเชื้อทะลุ 700,000 คนเมื่อวันเสาร์ โดยมีจำนวนเคสใหม่และผู้เสียชีวิตติดอันดับท็อป 5 ของโลก
ช่วง 7 วันที่ผ่านมาผู้ป่วยใหม่ในอาร์เจนตินาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 11,082 คน รองจากอินเดีย อเมริกา ฝรั่งเศส และบราซิล ซึ่งทุกประเทศเหล่านี้มีประชากรมากกว่าอาร์เจนตินา
อาร์เจนตินาที่เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจหนักหนาอยู่แล้ว เป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ในละตินอเมริกาที่บังคับใช้มาตรการกักตัวอย่างเข้มงวด แต่การผ่อนคลายมาตรการทีละน้อยและการระบาดในเมืองหลวงของรัฐต่างๆ ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
ที่เม็กซิโก กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า ยอดผู้ป่วยสะสมที่ได้รับการยืนยันเพิ่มเป็น 726,431 คน และเสียชีวิตรวม 76,243 คน จากเมื่อวันศุกร์ (25 ก.ย.) ที่พบเคสใหม่ 5,573 คน และเสียชีวิต 399 คน อย่างไรก็ดี คาดว่า ตัวเลขจริงจะสูงกว่านี้มากเนื่องจากมีการตรวจหาผู้ติดเชื้อน้อยมาก
ที่ยุโรปที่กำลังเผชิญการระบาดรอบสอง แพทริก บูเอต์ ประธานแพทยสภาของฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์วารสารรายสัปดาห์ เจอร์นัล ดูว์ ดิมองช์ ว่า การระบาดรอบสองมาถึงเร็วกว่าคาด และเตือนว่า ฝรั่งเศสจะเผชิญโรคระบาดนานหลายเดือนทั่วประเทศและทำให้ระบบรักษาพยาบาลต้องทำงานหนัก หากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
เมื่อวันเสาร์ ฝรั่งเศสรายงานจำนวนเคสใหม่ 14,412 คนในรอบ 24 ชั่วโมงก่อนหน้า ลดลงเล็กน้อยจาก 16,000 คนทั้งในวันพฤหัสฯ และศุกร์ โดยในช่วง 7 วันล่าสุดมีผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 4,102 คน ซึ่ง 763 คนถูกส่งตัวไปยังแผนกผู้ป่วยวิกฤต
ฝรั่งเศสออกมาตรการจำกัดต่างๆ เพื่อชะลอการระบาดในพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงที่สุด ซึ่งรวมถึงเมืองมาร์เซย์ริมฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน และเขตปารีส ทว่า มาตรการเหล่านี้กลับถูกต่อต้านจากประชาชน โดยเจ้าของบาร์และร้านอาหารในมาร์เซย์ประท้วงหน้าศาลแพ่งเมื่อวันเสาร์ เพื่อต่อต้านคำสั่งปิดให้บริการที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงค่ำวันเดียวกัน
ที่ออสเตรเลีย รัฐวิกตอเรียที่มีการระบาดหนักที่สุด ประกาศผ่อนคลายข้อจำกัดบางอย่างหลังจากใช้มาตรการบังคับระดับ 4 มานาน 8 สัปดาห์ โดยจะยกเลิกคำสั่งเคอร์ฟิวระหว่าง 21.00 – 5.00 น. ตั้งแต่วันจันทร์ (28 ก.ย.) และโรงเรียนประถมจะเริ่มเปิดอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม
ด้านจีนรายงานเคสใหม่ 17 คนเมื่อวันเสาร์ ลดลง 1 คนจากวันก่อนหน้า โดยทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ ส่วนที่ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเพียงคนเดียว เป็นนักเดินทางจากบาห์เรน
ซาอุดีอาระเบียเตรียมต่อวีซ่าให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศต้นปีหน้า หลังจากระงับไปนานหลายเดือน รวมทั้งออกมาตรการเข้มงวดหลายอย่างเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนา
จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกจนถึงวันเสาร์อยู่ที่ 992,984 คน ซึ่งเกือบ 20% อยู่ในอเมริกา