เอเอฟพี– บริษัทค่ายรถชื่อดังรวม เทสลา ฟอร์ด วอลโว และเมอร์ซิดีส เบนซ์ สัปดาห์นี้ได้ยื่นฟ้องทางกฎหมายต่อรัฐบาลทรัมป์เพื่อให้ศาลออกคำสั่งการเรียกเก็บภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถจากจีนที่สูงถึง 25%
เอเอฟพีรายงานวันนี้(24 ก.ย)ว่า ได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลที่นิวยอร์กในสัปดาห์นี้โดยมีเป้าหมายต้องการให้มีการยกเลิกการขึ้นภาษีชิ้นส่วนนำเข้าจากจีนในอัตรา 25% ที่ถูกขึ้นโดยผู้แทนการค้าสหรัฐฯในรายชื่อของสินค้ารวมไปถึง ชิ้นส่วนรถ
โดยบริษัทเทสลาของ อิลอน มัสค์ได้ยื่นฟ้องต่อศาลการค้าระหว่างประเทศกล่าวว่า ภาษีที่เรียกเก็บไม่สมเหตุสมผล เป็นไปอย่างกะทันหัน และเป็นการใช้ดุลพินิจในทางที่ไม่ถูกต้อง (abuse of discretion)
ในคำฟ้องได้ระบุชื่อผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์( Robert Lighthizer)ฐานะเป็นจำเลย โดยในปีที่ผ่านมาสำนักงานของเขาได้ปฎิเสธคำขอของเทสลาในการขอยกเว้นการจัดเก็บภาษีนำเข้าคอมพิวเตอร์และจอซึ่งเป็นชิ้นส่วนมันสมองสำหรับรถเทสลารุ่น 3 และเทสลากล่าวว่า ทำให้ทางบริษัทต้องแบกภาระเพิ่มจากการต้องจ่ายชิ้นส่วนราคาแพงเหล่านี้
เทสลาต้องการให้มีการยกเลิกการจัดเก็บภาษีพร้อมกับการได้รับเงินคืนพร้อมกับดอกเบี้ยของภาษีนำเข้าที่ได้จ่ายไปแล้ว อ้างอิงจากคำฟ้อง
และสำหรับค่ายรถเมอร์ซิดีส เบนซ์ พบว่าได้ยื่นฟ้องต่อรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยทางบริษัทกล่าวหาว่าสงความการค้าจีน-สหรัฐฯภายใต้นโนยบายของทรัมป์กระทบต่อบริษัทมูลค่าร่วม 500 พันล้านดอลลาร์ของการนำเข้าจากจีน
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯรายงานการขาดดุลการค้าในเดือนกรกฎาคมเพิ่มเกือบ 11% ไปอยู่ที่ 63.6 พันล้านดอลลาร์ ที่มีการขาดดุลกับจีนสูงถึง 28.3 พันล้านดอลลาร์