ฝ่ายบริหารกรุงโซลของเกาหลีใต้ฟ้องเรียกค่าเสียหายโบสถ์คริสต์นิกายย่อยแห่งหนึ่งเป็นจำนวนเงิน 4,600 ล้านวอน (ราว 123 ล้านบาท) โทษฐานขัดขวางการตรวจคัดกรองและติดตามบุคคลใกล้ชิดผู้ป่วย จนเป็นสาเหตุให้เชื้อโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดอีกระลอกในแดนโสม
การแพร่เชื้อระลอกใหม่เกิดขึ้นภายในโบสถ์แห่งหนึ่งซึ่งมีสมาชิกจำนวนมากเข้าร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในกรุงโซลเมื่อกลางเดือน ส.ค. กลายเป็น ‘คลัสเตอร์’ ใหญ่ที่สุดในเขตเมืองหลวง และทำให้ตัวเลขผู้ป่วยรายวันในเกาหลีใต้พุ่งเป็นหลักร้อยต่อเนื่องมานานกว่า 1 เดือน
ฝ่ายบริหารกรุงโซลแถลงวันนี้ (18 ก.ย.) ว่าเตรียมที่จะยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโบสถ์ซารังเจอิล (Sarang Jeil) และสาธุคุณ จุน กวางฮุน ซึ่งเป็นผู้นำโบสถ์ เนื่องจากโบสถ์แห่งนี้ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และยังแจ้งรายชื่อสมาชิกโบสถ์ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งมีส่วนทำให้ไวรัสกลับมาระบาดอย่างหนัก
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามไปยังโบสถ์ซารังเจอิล แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ
จุน ซึ่งเป็นนักวิจารณ์รัฐบาลตัวยงถูกส่งตัวเข้าคุกอีกรอบเมื่อต้นเดือน ก.ย. หลังจากเข้าร่วมการประท้วงเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ซึ่งถือว่าละเมิดเงื่อนไขประกันตัวในคดีชุมนุมทางการเมืองเมื่อช่วงก่อนเลือกตั้งรัฐสภา
คลัสเตอร์โบสถ์ซารังเจอิลทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้สูญเสียงบประมาณไปอย่างน้อย 13,100 ล้านวอน โดยเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของกรุงโซลราว 4,600 ล้านวอน
ด้านสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเกาหลีใต้ก็เตรียมที่จะยื่นฟ้องเพื่อเรียกเงินชดเชยจากโบสถ์แห่งนี้จำนวน 5,500 ล้านวอนด้วย
ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งเกาหลีใต้รายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่รวมทั้งสิ้น 126 รายในรอบ 24 ชั่วโมงก่อนเที่ยงคืนวันพฤหัสบดี (17) ซึ่งทำให้ผู้ป่วยสะสมในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 22,783 ราย เสียชีวิต 377 ราย
ยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่เคยสูงถึง 441 คนค่อยๆ ลดลงมาจนเหลือเพียง 100 คนเศษหลังจากรัฐบาลเกาหลีใต้สั่งฟื้นมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเข้มงวดเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังเตรียมการเฝ้าระวังขั้นสูงในช่วงวันหยุดเทศกาลของเกาหลีใต้สัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะมีคนเดินทางในประเทศนับสิบๆ ล้านคน
“ช่วงวันหยุดนี้ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญในการณรงค์หยุดเชื้อไวรัสโควิด-19” ยุน แทโฮ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณสุขของกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ระบุ
ที่มา: รอยเตอร์