ผู้คนที่เดินทางจากสิงคโปร์และไทย มายังอังกฤษและสกอตแลนด์ ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่มาตรการกักกันโรคสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อีกแล้ว เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ (19 ก.ย.) เป็นต้นไป จากการเปิดเผยของรัฐบาลอังกฤษ
นอกจากนี้แล้ว ทั้งไทยและสิงคโปร์ยังถูกเพิ่มชื่อเข้าไปในบัญชี “travel corridor (Travel Bubbles)” หรือการจับคู่ประเทศท่องเที่ยว แต่อีกด้านหนึ่งก็ได้มีการเพิ่มชื่อนักเดินทางจากสโลเวเนียและกวาเดอลูป เข้าไปในบัญชีที่ต้องกักกันโรคตนเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์
ทั้งสโลเวเนียและกวาเดอลูปจะถูกเพิ่มในบัญชีกักกันโรคของเวลส์เช่นเดียวกัน สวนทางกับนักเดินทางจากยิบรอลตาร์และไทย ซึ่งจะไม่อยู่ในรายชื่อประเทศที่จำเป็นต้องกักกันตนเองของดินแดนแห่งนี้
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดทั้งมวลนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 04.00 น.ตามเวลาอังกฤษ (ตรงกับเมืองไทย 10.00 น.) ของวันเสาร์ (19 ก.ย.)
กระทรวงคมนาคมของอังกฤษระบุว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งในแง่ของระดับและอัตราผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสโลเวเนียและกวาเดอลูป
ข้อมูลจากสโลเวเนีย พบว่าอัตราติดเชื้อรอบ 7 วันอยู่ที่ 29.1 ต่อประชากร 100,000 คน เพิ่มขึ้นจากระดับ 14.4 ของช่วง 7 วันก่อนหน้านี้ ส่วนอัตราของ กวาเดอลูป เพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่าในช่วง 4 สัปดาห์หลังสุด กระทรวงคมนาคมอังกฤษระบุ
เมื่อประเทศใดประเทศหนึ่งมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 20 รัฐบาลสหราชอาณาตักรจะพิจารณากำหนดมาตรการกักกันโรค ขณะที่นักเดินทางที่ไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรการกักกันโรคตนเอง มีสิทธิ์ถูกปรับเงิน 1,000 ปอนด์ (ราว 40,000 บาท) ในอังกฤษ, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ส่วนในสกอตแลนด์ อัตราโทษปรับอยู่ที่ 480 ปอนด์ (ราว 19,000 บาท)
กระทรวงคมนาคม เตือนบรรดาผู้โดยสารว่าพวกเขาถูกบังคับตามกฎหมายให้กรอกแบบฟอร์มระบุถิ่นพำนักของพวกเขา โดยในแบบฟอร์มนี้ได้ขอให้ผู้โดยสารมอบรายละเอียดการติดต่อและที่อยู่ในสหราชอาณาจักร และหากรายใดไม่ปฏิบัติตามก็มีสิทธิ์โดนปรับเงินสูงสุด 3,200 ปอนด์ (ราว 130,000 บาท) กรณีไม่มอบรายละเอียดการติดต่อที่ถูกต้อง ส่วนในเวลส์ มีโทษปรับสูงสุด 1,920 ปอนด์ (ราว 77,000 บาท)
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การตัดสินใจปลดข้อกำหนดกักกันโรคนักเดินทางจากไทยและสิงคโปร์ ไม่น่าจะทำให้มีนักเดินทางเดินทางเข้าสู่สหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากนักเดินทางจากทั้งสองประเทศจะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่สหราชอาณาจักรเฉพาะในเหตุผลที่กำหนดไว้เท่านั้น อย่างเช่นกรณีที่มีใบอนุญาตทำงาน เป็นคู่สมรสหรือบุตรของผู้มีถิ่นพำนักในสหราชอาณาจักร
ถ้อยแถลงไม่ได้ให้ความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะตรวจเชื้อโควิด-19 ที่สนามบินต่างๆ หนึ่งในแนวทางที่จะช่วยลดข้อบังคับกักกันโรค หลังจากก่อนหน้านี้ทางภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเรียกร้องให้นำประเด็นนี้เข้าสู่การพิจารณาโดยเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนตกงานมากไปกว่านี้
อเล็กซ์ ครูซ ผู้บริหารของสายการบิริติช แอร์เวย์ส ในสัปดาห์นี้ เรียกร้องให้เริ่มมีการทดสอบกับบรรดาผู้โดยสารที่บินระหว่างกรุงลอนดอนกับนิวยอร์ก “มันมีความจำเป็น” เขากล่าว พร้อมระบุว่าสายการบินยังคงต้องต่อสู้เพื่อการอยู่รอด
(ที่มา : บีบีซี)