xs
xsm
sm
md
lg

คนอังกฤษไม่ปลื้ม! พบ 90% ไม่ขอดูรายการทาง ‘เน็ตฟลิกซ์’ ของเจ้าชายแฮร์รี-เมแกน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผลสำรวจพบมีชาวอังกฤษถึง 9 ใน 10 คนที่จะไม่หันไปดูรายการต่างของเจ้าชายแฮร์รี และเมแกน มาร์เคิล ที่จะผลิตให้แก่เน็ตฟลิกซ์ หลังเพิ่งเซ็นสัญญากันไปเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา

เน็ตฟลิกซ์ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชั้นนำของอเมริกา แถลงเมื่อวันพุธ (2 ก.ย.) ว่าได้เซ็นสัญญากับดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซ็กส์เป็นเวลาหลายปี ซึ่งจะมอบรายได้แก่ทั้งสองสูงสุด 76 ล้านปอนด์ (ราว 3,100 ล้านบาท) และในข้อตกลงฉบับนี้ เจ้าชายแฮร์รีแห่งราชวงศ์อังกฤษ และ พระชายาเมแกน ซึ่งเป็นอดีตนักแสดงชาวอเมริกัน จะผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ต่างๆ ที่มีตั้งแต่รายการสำหรับเด็กไปจนถึงคอนเทนต์แบบมีสคริปต์ให้แก่ทางเน็ตฟลิกซ์

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจของ YouGov ล่าสุดพบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามถึง 64% ไม่สนใจเลยที่จะดูรายการต่างๆ ที่ผลิตโดยทั้งคู่ ส่วนอีก 20% บอกว่าไม่สนใจ โดยมีเพียง 3% ที่ระบุว่าสนใจมาก และ 9% บอกว่าสนใจอยู่บ้าง ส่วที่เหลือระบุว่า “ไม่รู้” นั่นหมายความว่ามีถึง 9 ใน 10 คนที่บอกว่าจะไม่ดูรายงานของทั้งสอง

หากแยกเป็นรายเพศแล้วพบว่า มีผู้ชายถึง 70% ที่ไม่สนใจดู ส่วนผู้หญิงไม่สนใจ 59% และจากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ในบรรดาผู้ที่ไม่สนใจดูรายการของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มีถึง 79% ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี

แม้ทั้งสองพระองค์ไม่มีประสบการณ์ในฐานะโปรดิวเซอร์ แต่เน็ตฟลิกซ์บอกว่า เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาเมแกนอยู่ระหว่างการทำโปรเจกต์ต่างๆ ซึ่งรวมถึงซีรีส์สารคดีเกี่ยวกับธรรมชาติ และซีรีส์แอนิเมชันที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิง และยังมีแผนผลิตผลงานเพื่อเน้นย้ำประเด็นความหลากหลายของบุคคลทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในวงการบันเทิง

ดีลนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเน็ตฟลิกซ์ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่มีสมาชิกกว่า 192 ล้านคน แต่สูญเสียคอนเทนต์หลักให้พวกสตูดิโอเจ้าเก่าที่พากันออกแพลตฟอร์มของตัวเองออกมาต่อสู้

เท็ด ซาแรนดอส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารร่วมและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคอนเทนต์ของเน็ตฟลิกซ์ กล่าวว่า เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนนับล้านทั่วโลกจากการแสดงตัวตนที่แท้จริง การมองโลกในแง่ดี และความเป็นผู้นำ และเน็ตฟลิกซ์ภูมิใจอย่างมากที่ได้รับเลือกจากทั้งสองพระองค์

อย่างไรก็ตาม หุ้นของเน็ตฟลิกซ์ร่วงลง 4.9% หลังคำแถลงดังกล่าว สูญเสียมูลค่าตลาดของบริษัทไปราวๆ 9,000 ล้านปอนด์ (ราว 37,000 ล้านบาท)

(ที่มา : เดอะ ซัน)


กำลังโหลดความคิดเห็น