เคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในยุโรป เกือบคืนสู่ระดับเดียวกับเมื่อเดือนมีนาคม ครั้งที่อัตราการติดเชื้อพุ่งถึงจุดพีกสุดรอบแรก ตามคำเตือนนักวิทยาศาสตร์ ท่ามกลางความกังวลที่มากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดคลื่นการแพร่ระบาดระลอกสอง
ประเทศต่างๆ ทั่วยุโรปได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ กลับมาเปิดร้านอาหาร ร้านค้าปลีก และสำนักงาน ในความพยายามเดินเครื่องเศรษฐกิจ แต่การผ่อนปรนข้อจำกัดทั้งหลายนำมาซึ่งการพบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น สถานการณ์ที่นำพายุโรปตกอยู่ในสถานะอ่อนแอ
“ไวรัสไม่ได้หลับใหลเลยตลอดฤดูร้อน มันไม่ได้หยุดพัก และนี่คือสิ่งที่เรากำลังพบเห็นในตอนนี้” อันเดรีย อัมมอน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป (ECDC) กล่าวเมื่อวันพุธ (2 ก.ย.) ระหว่างการดีเบตซึ่งจัดขึ้นโดยสหภาพยุโรป
เธอบอกว่า การเพิ่มขึ้นของอัตราผู้ติดเชื้อนั้นช้ากว่าเมื่อเดือนมีนาคม ครั้งที่ประเทศต่างๆ อย่างอิตาลีและสเปน ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักหน่วงที่สุด แต่เวลานี้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ตามการวิเคราะห์ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น พบว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตในยุโรปลดลงจากค่าเฉลี่ย 7 วันราวๆ 4,000 คนในช่วงต้นเดือนเมษายน เหลือราวๆ 300 คนในช่วงต้นเดือนกันยายน
“ที่เราพบเห็นในสัปดาห์นี้ก็คือ อัตราการติดเชื้อที่ได้รับรายงานในยุโรปและเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) และสหราชอาณาจักร ตอนนี้อยู่ที่ 46 ต่อประชากร 100,000 คน” อัมมอนกล่าว “คุณอาจจำได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่เราอยู่ต่ำกว่า 15 ไปแล้ว ดังนั้นมันคือการเพิ่มขึ้น และการเพิ่มขึ้นในตอนนี้คือสิ่งที่เราพบเห็นมานานกว่า 5 สัปดาห์แล้ว เราเกือบกลับสู่จำนวนที่เราเคยพบเห็นในเดือนมีนาคม”
ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป บอกว่า กลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อใหม่ดูเหมือนจะสัมพันธ์กับคนหนุ่มสาวที่ออกไปเตร็ดเตร่ตามผับบาร์ต่างๆ ร้านอาหาร และสถานที่สาธารณะอื่นๆ อย่างไรก็ตาม อัมมอน ระบุในวันพุธ (2 ก.ย.) ว่าการคืนชีพของไวรัสในตอนนี้กำลังพบเห็นในหมู่ประชากรคนสูงวัยเช่นกัน
“เดือนสิงหาคมเราพบเห็นประชากรคนสูงวัยได้รับผลกระทบมากขึ้น บ่งชี้ว่ามันมีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างแท้จริง” เธอกล่าว
มาร์ค วูลเฮาส์ ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเอดินบะระ บอกกับซีเอ็นเอ็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะกรณีนำจำนวนผู้ติดเชื้อมาเปรียบเทียบกัน เนื่องจากเวลานี้เกือบทุกประเทศมีศักยภาพในการตรวจเชื้อมากกว่าในเดือนมีนาคม แต่เขายอมรับว่าสัดส่วนของผลตรวจเชื้อที่ออกมาเป็นบวกก็เริ่มเพิ่มขึ้นเช่นกัน
เขาบอกว่าเวลานี้ประเทศต่างๆ มีการเฝ้าระวังดีขึ้น และสามารถล็อดาวน์ระดับท้องถิ่นแบบเจาะจงเป้าหมายได้มากกว่าเดิม แต่การเฝ้าระวังด้วยความระมัดระวังเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี ล้วนแต่รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดในรอบหลายเดือน และในสเปน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบผู้ติดเชื้อในรอบ 24 ชั่วโมง สูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด นอกจากนี้แล้วหลายประเทศอย่าง กรีซ และโครเอเชีย ซึ่งรอดพ้นจากการแพร่ระบาดระลอกแรก พบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนสิงหาคม เนื่องจากนักทองเที่ยวไหลบ่ากันไปยังสถานที่พักผ่อนต่างๆ หลังยุโรปกลับมาเปิดชายแดนภายในเดือนมิถุนายน
รัฐบาลชาติต่างๆ หวังหลีกเลี่ยงล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบสอง ได้บังคับใช้มาตรการใหม่ๆ ในนั้นรวมถึงปิดไนต์คลับ, ประกาศเคอร์ฟิว และบังคับสวมหน้ากากในที่สาธารณะ แต่กฎระเบียบต่างๆ เหล่านี้ต้องเผชิญกับการประท้วงในหลายประเทศ ในนั้นรวมถึงเยอรมนี และสหราชอาณาจักร
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น)