ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเกิน 6 ล้านคนแล้วเมื่อวันจันทร์(31ส.ค.) โดย 1 ล้านคนหลังสุดใช้เวลาเพียง 3 สัปดาห์ ขณะที่ บราซิล อาการสาหัสไม่แพ้กัน พบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันอีกเกือบ 46,000 คน
จนถึงตอนนี้สหรัฐฯยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดจากวิกฤตสาธารณสุขที่กำลังเล่นงานทั่วโลก โดยนอกจากผู้ติดเชื้อที่พุ่งเกิน 6 ล้านคนแล้ว จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮ็อปกินส์ ยังพบตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 183,203 คน สูงสุดในโลกทั้ง 2 กรณี
ตามข้อมูลของซีเอ็นเอ็นระบุว่าโควิด-19 ใช้เวลา 99 วันสำหรับแพร่เชื้อสู่ประชาชนในสหรัฐฯแตะระดับ 1 ล้านคนในวันที่ 28 เมษายน หลังพบเคสแรกของประเทศเมื่อวันที่ 21 มกราคม จากนั้นมันใช้เวลาอีก 43 วันในการพบผู้ติดเชื้อเกิน 2 ล้านคนในวันที่ 10 มิถุายน
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใช้เวลา 28 วัน ในการแพร่เชื้อสู่ผู้คนในอเมริกาทะลุ 3 ล้านรายในวันที่ 8 กรกฎาคม แต่จากนั้นอีกเพียง 15 วัน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกิน 4 ล้านคน ในวันที่ 23 กรกฎาคม ซึ่งถือเป็นล้านที่ใช้เวลาน้อยที่สุด
โควิด-19 ดูเหมือนจะอ่อนกำลังลงเล็กน้อย ใช้เวลามากขึ้นเป็น 17 วัน ในการแพร่ระบาดทะลุล้านที่ 5 และอีก 22 วัน ในการแพร่เชื้อสู่ผู้คนในสหรัฐฯเกิน 6 ล้านคน
ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งผ่าน 25 ล้านคน ขณะที่ประเทศต่างๆต้องหวนกลับมาใช้มาตรการอันเข้มข้นเพื่อหยุดวิกฤตด้านสาธารณสุขที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของมวลมนุษยชาติ
จากการนับของเอเอฟพีพบว่านับตั้งแต่กลางเดือนกรกฏาคมเป็นต้นมา จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านคนในทุกๆ 4 วัน โดยที่อินเดียเมื่อวันอาทิตย์(30ส.ค.) สร้างสถิติพบผู้ติดเชื้อวันเดียวสูงสุดในโลกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดเริ่มต้นขึ้น ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ 78,761 คน
ในอเมริกามีความแตกต่างกันมากระหว่างรัฐต่างๆ โดยนิวยอร์ก ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด มีสถานการณ์ดีขึ้นอย่างมาก หลังจากล็อกดาวน์นานหลายเดือน เช่นเดียวกับใช้มาตรการอื่นๆในการสกัดไวรัส
เทนนิส แกรนด์ สแลม ยูเอสโอเพ่น มีกำหนดเริ่มขึ้นในรัฐนิวยอร์ก ในวันจันทร์(31ส.ค.) โดยในปีนี้จะเป็นการแข่งขันพบไม่มีคนดู และอยู่ภายใต้มาตรการปกป้องสุขภาพอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตามในพื้นที่อื่นๆของอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นทางใต้และทางตะวันตกตอนกลาง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงสูงลิ่ว โดยมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐแอละแบมา รายงานพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 1,000 คน นับตั้งแต่กลับสู่ชั้นเรียน หลังปิดเทอมช่วงฤดูร้อน
ตามแนวโน้มในปัจจุบัน แบบจำลองต่างๆด้านระบาดวิทยา คาดหมายว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯจะพุ่งเกิน 200,000 คนในเดือนกันยายน
อีกด้านหนึ่งของโลก ละตินอเมริกา ซึ่งเป็นภูมิภาคได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ยังคงประสบปัญหาในการรับมือกับระลอกแรกของการแพร่ระบาด โดยเฉพาะในบราซิล ที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 พุ่งเกิน 120,000 คนไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ เป็นรองเพียงสหรัฐฯ ชาติเดียวเท่านั้น
ในวันจันทร์(31ส.ค.) บราซิล รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 45,961 คนและเสียชีวิต 553 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อนับตั้งแต่โควิด-19 ระบาด เพิ่่มเป็น 3,908,272 คน และเสียชีวิต 121,381 ราย
ด้วยที่ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้วเกือบ 855,000 คน และด้วยยังไม่มีวัคซีนหรือวิธีรักษาที่มีประสิทธิผล รัฐบาลชาติต่างๆถูกบีบให้ต้องเลือกใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และการล็อกดาวน์ เพื่อสกัดการแพร่ระบาด
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี/ซีเอ็นเอ็น)
