xs
xsm
sm
md
lg

อย.US อนุมัติใช้ ‘พลาสมา’ รักษาโควิด ทรัมป์เกาะกระแสความสำเร็จหวังฟื้นคะแนน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แย่งซีนขึ้นเวทีในวันอาทิตย์ (23 ส.ค.) แถลงข่าวที่ทำเนียบขาว เรื่องสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) อนุมัติฉุกเฉินให้ใช้ “พลาสมา” ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยที่มี นพ.สตีเฟน ฮาห์น ผู้อำนวยการใหญ่เอฟดีเอ (กลาง) ยืนฟังอยู่
เอเจนซีส์ – ‘ทรัมป์’ประกาศการอนุมัติฉุกเฉินให้ใช้พลาสมารักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยระบุว่าเป็นความก้าวหน้าระดับผ่าทางตันครั้งสำคัญ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขากำลังพยายามโหนกระแสความคืบหน้าในการต่อสู้ไวรัสโคโรนา ช่วยปูทางกลับสู่ทำเนียบขาวอีกสมัย ขณะที่หนึ่งในเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงบอกว่า วิธีนี้ถือเป็น “ความหวัง” แต่ก็เห็นด้วยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพคนอื่นๆ ซ่งท้วงว่า ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม

การประกาศข่าวนี้ในทำเนียบขาวเมื่อค่ำวันอาทิตย์ (23 ส.ค.) มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โจมตีว่า สำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ) ชะลอการอนุมัติวัคซีนและวิธีรักษาโควิด-19 เพราะหวังผลทางการเมืองในการสกัดไม่ให้ตนเองได้บริหารประเทศอีก 4 ปี

หนึ่งวันก่อนจะเริ่มการประชุมใหญ่ระดับชาติของพรรครีพับลิก ที่จะมีการเสนอชื่อทรัมป์อย่างเป็นทางการ ให้เป็นตัวแทนของพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ปรากฏว่าทรัมพาตัวเองขึ้นเวทีและขโมยซีนงานแถลงข่าวซึ่งจริงๆ แล้วจัดโดยเอฟดีเอ

ระหว่างการแถลงข่าว เอฟดีเออธิบายเหตุผลที่อนุมัติฉุกเฉินให้ใช้ “พลาสมา” หรือน้ำเลือดของผู้หายป่วยจากโควิด-19 ซึ่งมีโปรตีนภูมิคุ้มกัน มาใช้ในการรักษา เนื่องจากมีหลักฐานเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่า พลาสมาอาจลดอัตราการเสียชีวิตและฟื้นสุขภาพผู้ป่วยเมื่อใช้ในช่วง 3 วันแรกที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

เอฟดีเอเสริมว่า ผลจากการวิเคราะห์อาการของผู้ป่วย 20,000 คนที่ได้รับพลาสมา ทำให้พิจารณาได้ว่า วิธีรักษานี้มีความปลอดภัย และว่าจนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยที่ใช้พลาสมาแล้วถึง 70,000 คน

ทางด้านทรัมป์ประกาศว่า นี่เป็นสิ่งที่ตนรอคอยมานาน และยินดีอย่างยิ่งกับการประกาศข่าวครั้งประวัติศาสตร์ในการต่อสู้กับสิ่งที่เขาที่เขาจงใจใช้คำว่า “ไวรัสจีน” และเรื่องนี้จะสามารถช่วยชีวิตคนจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ (22) ทรัมป์ทวิตกล่าวหาสตีเฟน ฮาห์น ผู้อำนวยการเอฟดีเอ ซึ่งจริงๆ ก็เป็นคนที่เขาเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งนี้ โดยโพสต์ว่า “รัฐบาลเงา” หรือใครก็ตามที่ครอบงำเอฟดีเออยู่ กำลังทำให้บริษัทยาเข้าถึงประชาชนเพื่อทดสอบวัคซีนหรือวิธีรักษาได้ยากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่า บุคคลเหล่านั้นหวังให้ผลการทดสอบออกมาหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ทรัมป์นั้นกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อดันคะแนนนิยมของตนที่ตามหลังโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต โดยหวังเกาะกระแสจากการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน 4 วันในสัปดาห์นี้ รวมทั้งข่าวความก้าวหน้าในการรักษาหรือการมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา

ที่ผ่านมาทำเนียบขาวได้ทุ่มทรัพยากรก้อนใหญเพื่อสนับสนุนกระบวนการพัฒนาวัคซีนของบริษัทยาแห่งต่างๆ และบรรดาผู้ช่วยของทรัมป์ต่างหวังว่า จะมี “เซอร์ไพรส์เดือนตุลาคม” เพื่อช่วยให้คะแนนนิยมของทรัมป์กระเตื้องขึ้น

ล่าสุด อเมริกามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมกว่า 5.6 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 176,000 คน

อย่างไรก็ตาม ไมเคิล สตีล อดีตประธานคณะกรรมการแห่งชาติพรรครีพับลิกันระหว่างปี 2009-2011 โจมตีว่า คณะบริหารของทรัมป์ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากกว่าวิทยาศาสตร์หรือสุขภาพของประชาชน

ทั้งนี้ พลาสมาจากผู้ป่วยที่หายจากโควิด-19 ซึ่งอุดมด้วยสารภูมิต้านทาน มีความเป็นไปได้ว่าอาจช่วยต่อสู้กับไวรัสโคโรนา อย่างไรก็ดี พวกนักวิทยาศาสตร์บอกว่ายังคงหลักฐานข้อพิสูจน์ที่จะสรุปว่าวิธีนี้ได้ผลหรือไม่ รวมทั้งรายละเอียดที่ว่าควรต้องใช้เมื่อใดและปริมาณเท่าไรจึงจะได้ผล

ในเอกสารอธิบายการอนุมัติการใช้ฉุกเฉินคราวนี้ เดนิส ฮินตัน หัวหน้านักวิจัยของเอฟดีเอ ระบุว่า ไม่ควรคิดว่า พลาสมาเป็นมาตรฐานใหม่ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยจะมีการวิเคราะห์และทดลองทางคลินิกเพิ่มเติมต่อไป

ขณะที่ นพ.โจชัว ชาร์ฟสไตน์ รองคณบดีคณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เห็นด้วยว่า วิธีรักษานี้เป็นความหวัง แต่มันยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ยืนยันอย่างสมบูรณ์

นอกจากนั้น ปริมาณพลาสมาในอเมริกาขณะนี้ยังมีจำกัดเนื่องจากต้องขอรับบริจาคจากผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาหายแล้ว รวมทั้งยังต้องตรงกับหมู่เลือดของผู้รับด้วย โดยรอยเตอร์รายงานว่า ปริมาณพลาสมาจากผู้ป่วยโควิด-19 กำลังพร่องลง และสภากาชาดอเมริกันระบุว่า สต็อกพลาสมาลดลง 70% ในเดือนกรกฎาคม
กำลังโหลดความคิดเห็น