รอยเตอร์/เอเจนซีส์ –ล่าสุดอดีตที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ผู้นำสหรัฐฯ สตีฟ แบนนอน ได้รับอนุญาตให้สามารถเป็นอิสระชั่วคราวภายใต้เงินประกัน 5 ล้านดอลลาร์ พร้อมถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกสหรัฐฯ หลังถูกรวบตัวคาเรือยอร์ชหรูในรัฐคอนเนกติกัตเช้าวันพฤหัสบดี(20 ส.ค) คดีโกงเงินบริจาคสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโกช่วยทรัมป์
รอยเตอร์รายงานวันศุกร์(21 ส.ค)ว่า สตีฟ แบนนอน วัย 66 ปี อดีตที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็น 1 ใน 4 คนที่ถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหาโดยอัยการรัฐบาลกลางสหรัฐฯในเมืองแมนแฮตตันในคดีสมคบคิดในการโกงทางอิเลกทรอนิกและคดีสมคบคิดเพื่อการฟอกเงิน
ซึ่งแต่ละคนจะได้รับโทษจำคุกสูงสุด 40 ปีในเรือนจำหากถูกตัดสินว่าผิดจริง แต่เชื่อว่าการจำคุกจริงคงมีระยะเวลาสั้นกว่านั้นมาก รอยเตอร์ชี้
แบนนอนซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการชนะเลือกตั้งปี 2016 ของทรัมป์ประกาศไม่ยอมรับในความผิดหลังถูกจับกุมในเวลา 07:15 น. บนเรือสำราญหรูที่ ลอง ไอแลนด์ ซาวด์(Long Island Sound )นอกฝั่งรัฐคอนเนกติกัตอ้างอิงจากNBC NEWS สื่อสหรัฐฯ
ซึ่งแหล่งข่าวได้เปิดเผยว่า ไม่มีปัญหาระหว่างการควบคุมตัวแบนนอนซึ่งพบว่าเขาถูกเจ้าหน้าที่ใส่กุญแจมือ
โดยสื่อสหรัฐฯชี้ว่า เรือสำราญลำนี้เป็นของกัว เหวินกุ้ย (Guo Wengui ) มหาเศรษฐีจีนที่อยู่ในระหว่างการลี้ภัยทางการเมือง และเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของแบนนอน
เอพีรายงานว่า กัวได้หลบหนีออกนอกประเทศจีนในปี 2014 ระหว่างที่ปักกิ่งดำเนินนโยบายการกวาดล้างคอร์รัปชันตามคำสั่งของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
อัยการกล่าวหาว่า แบนนอนและพรรคพวกได้จัดการระดมทุนทางออนไลน์เพื่อชักชวนให้ฐานเสียงประธานาธิบดีสหรัฐฯร่วมบริจาคเงินเพื่อสร้างกำแพงทางใต้กั้นเม็กซิโกภายใต้ชื่อ “เราสร้างกำแพง” หรือ“We Build The Wall” พร้อมกับยืนยันว่าเขาจะไม่นำเงินมาเป็นส่วนหนึ่งสำหรับการจ่ายเงินเดือนให้ตัวเอง และสามารถระดมทุนได้มากกว่า 25 ล้านดอลลาร์ อ้างอิงจากคำฟ้อง NBC News ชี้
แต่อัยการสหรัฐฯเปิดเผยว่า ในความเป็นจริงแบนนอนได้แอบนำเงินบริจาคจำนวนหลายแสนดอลลาร์ไปใช้ส่วนตัว
ซึ่งในการปรากฎตัวต่อหน้าศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯเมืองแมนแฮตตันครั้งแรกในวันพฤหัสบดี(20)พบว่าเขาถูกใส่กุญแจมือและสวมหน้ากากอนามัย โดยเขาไม่ยอมรับในความผิดที่ถูกกล่าวหา และในภายหลังถูกปล่อยตัวออกมาภายใต้เงื่อนไขการประกันวงเงิน 5 ล้านดอลลาร์ พร้อมกันนี้ถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะถูกจับจากคดีฉ้อโกงเงินบริจาคสร้างกำแพง แต่แบนนอนยังคงกล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า “ความโกลาหนทั้งหมดนี้มีขึ้นเพื่อต้องการหยุดประชาชนที่ต้องการจะสร้างกำแพง”
ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯหลังทราบข่าวการจับกุมได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเกี่ยวกับแบนนอนว่า เขารู้สึกแย่มากสำหรับข้อหา แต่พยายามกันตัวให้ออกห่างจากแบนนอนและคดี โดยกล่าวว่า “ผมไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเศร้า”
และชี้ว่า “ผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขามานานกว่าปีแล้ว ตามจริงคือหลายปีแล้ว”
ผู้นำสหรัฐฯกล่าวอีกว่า เขารู้น้อยมากถึงโครงการระดมทุนการสร้างกำแพงของแบนนอน“We Build The Wall”แต่ทว่าหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องเคยกล่าวในปี 2019 ว่า ทรัมป์ได้เคยเอ่ยปากเสนอให้ความช่วยเหลือ อ้างอิงการรายงานจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส
รอยเตอร์ชี้ว่า มีผู้บริจาคเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 330,000 คน โดย อดีตทหารผ่านศึกอิรัก ไบรอัน โคลฟาก(Brian Kolfage)คนออกหน้าและผู้จัดการระดมทุนได้นำเงินบริจาค 350,000 ดอลลาร์ไปใช้เพื่อการใช้ชีวิตที่หรูหรา เป็นต้นว่า
ตกแต่งบ้าน ซื้อเรือ และรถSUV ที่หรูหรา อ้างอิงจากคำฟ้อง
ขณะที่แบนนอนนั้นรับเงินผ่านบริษัทบังหน้าและองค์การไม่แสวงผลกำไรที่เขาเป็นผู้ควบคุมและมีการใช้ใบเสร็จรับเงินที่เป็นเท็จรับเงินมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์จากการระดมทุนสร้างกำแพงนี้
ซึ่งการระดมทุนนี้ตั้งผ่านเว็บไซต์https://webuildthewall.us/ และมีชื่อแบนนอนเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมการ
NBC News รายงานว่าทางกลุ่มไม่ได้ส่งมอบเงินให้หน่วยงานใด
แต่ใช้เงินซื้อที่ดินติดพรมแดนและสร้างกำแพงขึ้น