รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ทวีตข้อความเรียกร้องให้ชาวอเมริกันบอยคอตบริษัท กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ โค. หลังผู้ผลิตยางรายใหญ่ซึ่งมีฐานอยู่ในรัฐโอไฮโอ สั่งห้ามพนักงานสวมเครื่องแต่งกายที่มีสัญลักษณ์สนับสนุนพรรคการเมือง รวมถึงหมวก “Make America Great Again” ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้สนับสนุนทรัมป์
ทรัมป์ ซึ่งเตรียมลงสู้ศึกเลือกตั้งในเดือน พ.ย.เพื่อรั้งเก้าอี้ประธานาธิบดีสมัยที่ 2 บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ตนจะสั่งเปลี่ยนยางรถลิมูซีนของประธานาธิบดีไปใช้ยี่ห้ออื่นแทนหากมีตัวเลือก
“อย่าซื้อยางกู๊ดเยียร์ – พวกเขาสั่งแบนหมวก MAGA HATS” ทรัมป์ ทวีตข้อความวานนี้ (19 ส.ค.) โดยหมายถึงหมวกแก๊ปสีแดงที่มีสโลแกนคำว่า ‘Make America Great Again’
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวด้วยว่า “ผมไม่แฮปปี้กับกู๊ดเยียร์ เพราะพวกเขากำลังเล่นการเมืองอยู่” พร้อมอ้างว่าผู้ผลิตยางรายนี้ “ทำตัวน่าอับอาย” ที่ห้ามพนักงานสวมเครื่องแต่งกายสนับสนุนขบวนการ ‘Blue Lives Matter’ ซึ่งเป็นฝ่ายสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย แต่กลับอนุญาตให้สนับสนุนการรณรงค์อื่นๆ ซึ่ง ทรัมป์ วิจารณ์ว่ามีความเป็น ‘มาร์กซิสม์’ แฝงอยู่
ก่อนหน้านั้น สถานีโทรทัศน์ WIBW ซึ่งเป็นสื่อในเครือซีบีเอสในรัฐแคนซัสได้รายงานข่าวการฝึกอบรมพนักงานที่สำนักงานใหญ่ของกู๊ดเยียร์ ซึ่งมีระบุถึงเรื่องการแต่งกายเพื่อสนับสนุนทางการเมืองด้วย
กู๊ดเยียร์ซึ่งทำรายได้เกือบ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้วชี้แจงว่า ภาพสไลด์ซึ่งระบุว่าการแต่งกายสนับสนุน ‘Black Lives Matter’ และ “Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender Pride’ เป็นสิ่งที่รับได้ ในขณะที่ ‘Blue Lives Matter’ และ ‘MAGA Attire’ เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ไม่ได้ถูกผลิตหรือแจกจ่ายโดยกลุ่มบริษัท
“เพื่อความเข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายที่บริษัทเรามีมาอย่างยาวนาน กู๊ดเยียร์ไม่อดทนกับการคุกคามหรือการแบ่งแยกกีดกันทุกรูปแบบ” บริษัทระบุในถ้อยแถลง
เพื่อที่จะบังคับใช้นโยบายนี้ กู๊ดเยียร์จึงขอให้พนักงาน “หลีกเลี่ยงการแสดงออกซึ่งการสนับสนุนทางการเมืองต่อผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด รวมถึงการสนับสนุนอื่นๆ ที่ไม่อยู่ในกรอบของความเป็นธรรมและความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ ในสถานที่ทำงาน”
ทวีตของ ทรัมป์ ส่งผลให้ราคาหุ้นกู๊ดเยียร์ดิ่งลงทันทีถึง 6% เมื่อวันพุธ (19) ก่อนจะดีดตัวกลับมาโดยปิดตลาดที่ 9.50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 2.4%
กู๊ดเยียร์เป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกาเหนือ โดยข้อมูลจาก Tire Business ระบุว่าในปี 2018 ยานพาหนะรุ่นใหม่ในสหรัฐฯ ใช้ยางยี่ห้อนี้ถึง 24%
โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต ออกมาโจมตีคำพูดของ ทรัมป์ ว่ากำลังแสดงให้เห็นว่าผู้นำสหรัฐฯ รายนี้ไม่แคร์เลยว่าคนงานหลายหมื่นตำแหน่งในกู๊ดเยียร์อาจตกเป็นเหยื่อ “ความเสียหายที่ไม่ตั้งใจ” (collateral damage) จากการออกมาร้องแรกแหกกระเชอในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของเขา
เชอร์รอด บราวน์ ส.ว.เดโมแครตจากรัฐโอไฮโอซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่กู๊ดเยียร์ ก็ออกมาทวีตคล้ายๆ กันว่า “เป็นเรื่องน่ารังเกียจที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องให้ผู้คนบอยคอตบริษัทอเมริกันซึ่งมีการว่าจ้างพนักงานหลายหมื่นตำแหน่ง”
ทรัมป์ ยังคงแสดงท่าทีไม่ยี่หระต่อผลกระทบทางการเมืองหรือธุรกิจที่จะตามมาจากการทวีตของเขา โดยบอกว่าตนยังได้รับการสนับสนุน “ดีมาก” จากพนักงานกู๊ดเยียร์ และเสริมอีกว่า “ผมเชื่อว่าพวกคุณจะหางานดีๆ ที่อื่นทำได้”
การบอยคอตและรีดภาษีเป็นวิธีที่ ทรัมป์ นิยมใช้เพื่อบรรลุซึ่งเป้าหมายทางการเมืองและเศรษฐกิจของตนเอง
เมื่อต้นปี 2016 ก่อนที่จะชนะศึกเลือกตั้ง ทรัมป์เคยยุให้ชาวอเมริกันบอยค็อตต์ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล จนกระทั่งบริษัทเทคยักษ์ใหญ่รายนี้ยอมทำตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ให้ปลดล็อกไอโฟนของฆาตกรที่ก่อเหตุสังหารหมู่ในเมืองซานเบอร์นาดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย
