xs
xsm
sm
md
lg

‘เกาหลีใต้’เจอเคสใหม่‘โควิด’สูงทุบสถิติ หวั่นอาจลามทั่วกรุงโซลและทั่วประเทศ ด้าน ‘อินเดีย’ติดเชื้อวันเดียวกว่า 64,000

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บุคลากรทางการแพทย์เก็บตัวอย่างจากตำรวจผู้หนึ่ง ระหว่างการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่สำนักงานตำรวลนครบาลกรุงโซล ในเมืองหลวงเกาหลีใต้ วันพุธ (19 ส.ค.)
เอเจนซีส์ – ทางการเกาหลีใต้แถลงวันพุธ (19 ส.ค.) ว่ายังคงพบผู้ติดเชื้อใหม่หลักร้อยรายต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 6 โดยเฉพาะ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาจำนวนอยู่ในระดับสูงที่สุดภายหลังจากต้นเดือนมีนาคม ทั้งนี้ 90% อยู่ในเขตกรุงโซล รัฐบาลเตือนให้ประชาชนงดออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น เนื่องจากมีความเสี่ยงที่โควิด-19 อาจระบาดทั่วเมืองหลวงและลุกลามไปทั่วประเทศ

ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (เคซีดีซี) ระบุในวันพุธว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเป็นจำนวน 297 คน ถือเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันที่มีเคสใหม่ในอัตราเลขสามหลัก แถมยังเป็นสถิติสูงสุดภายหลังจากต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นมา ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศเพิ่มเป็น 16,058 คน และเสียชีวิตรวม 306 คน

ที่สำคัญ เกือบ 90% ของผู้ติดเชื้อใหม่เหล่านี้กระจุกอยู่ในกรุงโซลและพื้นที่รอบๆ

คิม กังลิป รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขเตือนว่า เกาหลีใต้กำลังเผชิญวิกฤตอันตรายที่ไวรัสอาจระบาดในเขตเมืองหลวงและนำไปสู่การระบาดใหญ่ทั่วประเทศ พร้อมเตือนว่า ลำพังการใช้มาตรการติดตามผู้สัมผัสโรคและการกักตัวคงไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ ดังนั้น ประชาชนจึงต้องช่วยกันหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น

ในบรรดาผู้ติดเชื้อที่พบล่าสุด มีอย่างน้อย 140 คนเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับโบสถ์คริสต์โปรแตสแตนท์ “ซารังเจอิล” ในเมืองหลวง ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อจากการระบาดแบบกลุ่มก้อนในจุดนี้รวมแล้วมีถึงเกือบ 600 คน

ทางการส่งตำรวจกว่า 8,500 คนติดตามตัวสมาชิกอีกราว 600 คนของโบสถ์แห่งนี้ที่ได้ร่วมทำกิจกรรมและสมควรกักตัว นอกจากนั้นทางการยังต้องการตรวจหาเชื้อจากสมาชิกอีก 4,000 คน โดยที่บางคนลังเลที่จะเปิดเผยตัวยอมให้ตรวจหาเชื้อหรือกักตัว

นายกรัฐมนตรีชุง เซ-กยุนเผยว่า รัฐบาลจะดำเนินการทางกฎหมายกับโบสถ์ซารังเจอิลในข้อหาขัดขวางการติดตามผู้สัมผัสโรคและตรวจหาเชื้อ ด้วยการไม่ให้รายชื่อสมาชิกที่ถูกต้องและครบถ้วน

แต่นอกจากโบสถ์ซารังเจอิงแล้ว ยังมีการระบาดแบบกลุ่มก้อนขนาดเล็กกว่าที่เชื่อมโยงกับโบสถ์แห่งอื่นๆ ในโซล ตลอดจนโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองยงอิน รวมทั้งผู้ติดเชื้ออีกหลายสิบคนที่เชื่อมโยงกับร้านสตาร์บัคส์ในเมืองปาจู

ขณะนี้ รัฐบาลสั่งปิดไนต์คลับ บาร์คาราโอเกะ ร้านอาหารบุฟเฟต์ และไซเบอร์คาเฟ่ในกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบ รวมทั้งห้ามการร่วมพิธีทางศาสนา และห้ามการร่วมทำกิจกรรมในอาคารเกิน 50 คน และ 100 คนสำหรับกลางแจ้ง

เจ้าหน้าที่ยังเผยว่า ถ้าจำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลงแล้ว อาจต้องบังคับใช้กฎเว้นระยะห่างทางสังคมระดับสูงสุด ซึ่งครอบคลุมถึงการปิดโรงเรียนสถานศึกษา และแนะนำให้บริษัทต่างๆ อนุญาตให้พนักงานทำงานจากบ้าน ตลอดจนห้ามการรวมตัวเกิน 10 คน

ส่วนที่อินเดีย ในวันพุธ กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในวันเดียวถึงกว่า 64,000 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 2.8 ล้านคน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน รวมเป็น 52,889 คน

ปัจจุบัน อินเดียเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดอันดับ 3 ของโลก รองจากอเมริกาและบราซิล จากการที่ไวรัสโคโรนาระบาดต่อเนื่องจากเมืองใหญ่สู่เมืองเล็ก ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพที่อ่อนแออยู่แล้วอยู่ในอาการจวนเจียนล่ม

สำหรับที่ออสเตรเลีย นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน แถลงเมื่อวันพุธว่า ต้องการให้ประชากรทั้ง 25 ล้านคนได้รับวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา เขาพูดเช่นนี้หลังจากที่รัฐบาลของเขาบรรลุข้อตกลงจัดซื้อวัคซีนที่อยู่ระหว่างการพัฒนาของแอสตราเซเนกาและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด

ขณะนี้ มีวัคซีนราว 30 ตัวที่ทำท่าว่าอาจใช้ต้านไวรัสโคโรนาได้และอยู่ระหว่างการทดสอบกับกลุ่มคนจำนวนมาก เรื่องนี้กลายเป็นความหวังสำคัญสำหรับการยุติการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตกว่า 775,000 คน และติดเชื้อเกือบ 22 ล้านคน

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม รัสเซียได้ประกาศรับรองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวแรกของโลก ทั้งที่ขั้นตอนการทดลองกับคนยังไม่แล้วเสร็จ สร้างความเคลือบแคลงในหมู่นักวิชาการทั้งหลาย รวมทั้งองค์การอนามัยโลก (ฮู) ที่ท้วงว่า วัคซีนดังกล่าวยังต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเสียก่อน

เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ (ซ้าย) เก็บตัวอย่างจากเด็กน้อยผู้หนึ่งเพื่อนำไปตรวจสอบหาเชื้อโรคโควิด-19 ที่เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย วันพุธ (19 ส.ค.)
กำลังโหลดความคิดเห็น