เอเจนซีส์ – หน่วยอารักขารีบพา “ทรัมป์” ออกจากห้องแถลงข่าวกะทันหันเมื่อวันจันทร์ (10 ส.ค.) หลังเจ้าหน้าที่ยิงชายพกอาวุธได้รับบาดเจ็บด้านนอกทำเนียบขาว อย่างไรก็ดี หลายนาทีต่อมา ผู้นำสหรัฐฯ กลับขึ้นโพเดียมอีกครั้งและแจงว่า สถานการณ์อยู่ในการควบคุมแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ยืนยันไม่มีบุคคลอื่นได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตราย รวมทั้งไม่มีการบุกรุกทำเนียบขาว
ทอม ซัลลิแวน หัวหน้าแผนกกองกำลังอารักขาในเครื่องแบบ สังกัดหน่วยอารักขาผู้นำ แถลงทางทวิตเตอร์ในวันจันทร์ (10) ว่า ชายผู้ต้องสงสัยซึ่งอยู่ในวัย 51 ปี บอกกับเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาผู้นำคนหนึ่งซึ่งประจำอยู่ที่หัวมุมถนนสายที่ 17 ตัดกับถนนเพนซิลเวเนียอะเวนิว ห่างจากทำเนียบขาวหนึ่งช่วงตึกว่า ตนเองมีอาวุธก่อนพุ่งเข้าไปหาเจ้าหน้าที่คนนั้นพร้อมชักวัตถุบางอย่างออกมา ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจยิงชายคนดังกล่าวที่ลำตัว
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้ช่วยกันปฐมพยาบาลและเรียกบริการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อนำทั้งผู้ต้องสงสัยและเจ้าหน้าที่ผู้นั้นส่งโรงพยาบาล และยังได้แจ้งเรื่องนี้ต่อกองบัญชาการตำรวจนครบาลดี.ซี.
ซัลลิแวนสำทับว่า สำนักงานจรรยาบรรณวิชาชีพของหน่วยอารักขาผู้นำจะทำการสอบสวนการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ผู้นั้นเป็นการภายใน และยืนยันว่า ไม่มีการบุกรุกทำเนียบขาว รวมทั้งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตรายนอกจากชายพกอาวุธคนดังกล่าว
ระหว่างเกิดเหตุการณ์นี้ เจ้าหน้าที่ของหน่วยอารักขาผู้นำได้เข้าไปขัดจังหวะการแถลงข่าวและพาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากห้อง ก่อนล็อกประตูห้องแถลงข่าวที่มีนักข่าวอยู่ภายใน
บริเวณด้านนอกห้อง เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาผู้นำในชุดดำพร้อมปืนไรเฟิลอัตโนมัติวิ่งเข้าประจำตำแหน่งหลังพุ่มไม้ โดยทีมช่างภาพฟ็อกซ์นิวส์ที่อยู่ในบริเวณนั้นเผยว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด
ฟิลิโปส์ เมลากู หนึ่งในผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ ที่ตั้งแคมป์ใกล้ทำเนียบขาว บอกว่า ได้ยินเสียงผู้ชายร้องก่อนที่จะมีเสียงปืน 1 นัด หลังจากนั้นชายอย่างน้อย 8-9 คนพร้อมปืนเออาร์-15 วิ่งเข้าไปในบริเวณนั้นทันที
หลายนาทีต่อมา ทรัมป์ได้กลับสู่ห้องแถลงข่าวอีกครั้ง และแจ้งว่า เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาผู้นำได้ยิงผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งที่พกพาอาวุธ ตรงบริเวณด้านนอกทำเนียบขาวทำให้ชายผู้นั้นได้รับบาดเจ็บ และขณะนี้ได้นำผู้ต้องสงสัยส่งโรงพยาบาลแล้ว ก่อนสำทับว่า สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุม และยังบอกว่า หลังออกจากห้องแถลงข่าว เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาผู้นำพาตนไปยังห้องทำงานรูปไข่ที่อยู่ปีกด้านตะวันตกของทำเนียบขาวใกล้กับห้องแถลงข่าว
ทรัมป์เสริมว่า ยังไม่รู้ชื่อหรือแรงจูงใจของผู้ต้องสงสัย แต่อาจไม่เกี่ยวข้องกับตนแต่อย่างใด ผู้นำสหรัฐฯ ยังชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยอารักขาผู้นำ ก่อนแถลงข่าวต่อด้วยการโจมตีพรรคเดโมแครตที่เป็นฝ่ายค้าน และอวดอ้างผลงานของตนเองในการจัดการวิกฤตไวรัสโคโรนา ถึงแม้มีผลโพลสำรวจออกมาว่า ชาวอเมริกัน 2 ใน 3 เชื่อว่า ทรัมป์ผิดพลาดในภารกิจนี้ก็ตาม