รอยเตอร์ – หน่วยกู้ภัยเลบานอนยังคงเร่งค้นหาผู้สูญหายและนำศพผู้เสียชีวิตออกจากซากปรักหักพัง หลังเกิดเหตุโกดังเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรตระเบิดที่ท่าเรือเบรุตเมื่อ 2 วันก่อน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 135 ราย
นายกรัฐมนตรี ฮัสซัน ดิอาบ ประกาศให้มีการไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันนี้ (6) ขณะที่การสอบสวนเบื้องต้นพุ่งเป้าไปที่ความละเลยของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่า 5,000 คน
เจ้าหน้าที่เลบานอนระบุว่า คลื่นช็อกเวฟจากการระเบิดพุ่งเข้าทำลายอาคารบ้านเรือนในรัศมีหลายกิโลเมตร ทำให้กระจกหน้าต่างแตกกระจายและเฟอร์นิเจอร์ถูกดูดออกมากองเกลื่อนถนน และขณะนี้มีชาวเลบานอนราว 250,000 คนที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน
ประธานาธิบดี มิเชล อูน ระบุว่า แอมโมเนียมไนเตรตซึ่งเป็นองค์ประกอบในการผลิตปุ๋ยและระเบิด ถูกนำมาเก็บพักไว้ที่ท่าเรือแห่งนี้นานถึง 6 ปีหลังจากที่ตรวจยึดได้
“ไม่มีคำพูดใดจะบรรยายความน่ากลัวที่เกิดขึ้นกับเบรุตเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา และทำให้มันกลายเป็นเมืองแห่งภัยพิบัติ” อูน แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉิน พร้อมย้ำว่ารัฐบาล “จะสอบสวนและเผยแพร่ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด และนำตัวผู้ที่รับผิดชอบหรือผู้ที่ละเลยมาลงโทษ”
แหล่งข่าวใกล้ชิดกระบวนการสอบสวนชี้ว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจาก “การเพิกเฉยและความละเลย” ของคณะกรรมการและผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องซึ่ง “ไม่ทำอะไรเลย” ทั้งที่ควรจะสั่งเคลื่อนย้ายสารเคมีอันตรายชนิดนี้ออกไปจากบริเวณท่าเรือนานแล้ว
ล่าสุด คณะรัฐมนตรีเลบานอนได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่การท่าเรือซึ่งดูแลการเก็บรักษาแอมโมเนียมไนเตรตถูกกักบริเวณในบ้านพัก
เจ้าหน้าที่เลบานอนยังไม่ระบุสาเหตุที่แน่ชัดของการระเบิดครั้งนี้ แต่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเผยกับสื่อท้องถิ่นว่าขณะเกิดเหตุมีคนงานกำลังเชื่อมโลหะอยู่ที่โกดังดังกล่าว
สภากาชาดเลบานอนได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขสร้างห้องเก็บศพขึ้น และมีรายงานว่าโรงพยาบาลหลายแห่งมีเตียงและเครื่องไม้เครื่องมือไม่พอรองรับผู้บาดเจ็บ
มาร์วาน อับบูด ผู้ว่าการกรุงเบรุต ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อัล-ฮาดาธ ว่า มูลค่าความเสียหายจากการเหตุระเบิดครั้งนี้อาจสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากนับร่วมความสูญเสียทางอ้อมที่เกิดกับภาคธุรกิจต่างๆ
เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นยังทำให้ศาลพิเศษของสหประชาชาติเลื่อนการอ่านคำพิพากษาในคดีลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรี ราฟิก อัล-ฮาริรี ออกไปเป็นวันที่ 18 ส.ค. จากเดิมซึ่งมีกำหนดอ่านคำพิพากษาในวันศุกร์นี้ (7)
ศาลได้ทำการไต่สวน 4 ผู้ต้องหาจากขบวนการมุสลิมชีอะห์ ‘ฮิซบอลเลาะห์’ ฐานอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดรถบรรทุกเมื่อปี 2005 ซึ่งทำให้ ฮาริรี และเหยื่ออีก 21 คนเสียชีวิต โดยจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากท่าเรือเบรุตไปแค่ราวๆ 2 กิโลเมตร
มาร์ก เมโดวส์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ระบุว่า สหรัฐฯ ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เหตุระเบิดกลางท่าเรือเบรุตจะเกิดจาก “การโจมตี” และอยู่ระหว่างรวบรวมข่าวกรอง
