รอยเตอร์ – ประชาชนชาวฟิลิปิปนส์จำนวนร่วม 27 ล้านคนที่อาศัยอยู่ภูมิภาคเมืองหลวงกรุงมะนิลาจะต้องเริ่มต้นถูกล็อกดาวน์ตั้งแต่วันนี้(4 ส.ค)เกิดขึ้นหลังภายใน 24 ชั่วโมงมีเคสใหม่เพิ่ม6,352 รายสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขณะที่ทั่วโลกเสียชีวิตล่าสุดแตะเกือบ 700,000 คน ติดเชื้อรวม 18,317,520 คน
รอยเตอร์รายงานวันนี้(4 ส.ค)ว่า อ้างอิงจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์พบว่าในวันอังคาร(4) ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อยู่ที่ 694,713 คน ติดเชื้อรวม18,317,520 คน ขณะที่สหรัฐฯเสียชีวิต155,478 คน
และติดเชื้อ 4,718,24 คน
พบว่าประชาชนฟิลิปปินส์ไม่ต่ำกว่า 28 ล้านคนบนเกาะหลักลูซอน รวมไปถึงกรุงมะนิลาถูกสั่งล็อกดาวน์รอบใหม่โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้(4)
โดยประชาชนได้รับคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกบ้านเว้นแต่เพื่อกิจจำเป็น เป็นต้นว่าการออกไปจับจ่ายซื้อของหรือเดินทางไปทำงาน เกิดขึ้นหลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ออกมาแถลงล่าสุดว่า เคสใหม่ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวนสูงสุดที่ 6,352 รายสูง และถือว่าเป็นการเพิ่มที่สูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และยังเป็นจำนวนสูงเพิ่มขึ้นระยะเวลา 5วันจากทั้งหมด 6 วันที่ผ่านมา ซึ่งฺฟิลิปปินส์มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 2,115 ราย ติดเชื้อรวม 112,593 คนในวันอังคาร(4)
พบเจ้าหน้าที่ออกคำสั่งหยุดการคมนาคมสาธารณะกำหนดให้ต้องซื้ออาหารเพื่อนำกลับไปทานที่บ้านเท่านั้น รวมไปถึงร้านตัดผมถูกสั่งปิดให้บริการชั่วคราว
ขณะที่วันนี้(4)ตำรวจฟิลิปปินส์ถูกส่งออกมาปิดกั้นถนนเพื่อบังคับใช้การล็อกดาวน์รอบใหม่ที่ผู้นำประธานาธิบดี
โรดริโก ดูเตอร์เต ออกมาประกาศในช่วงค่ำวันอาทิตย์(3)
ทำเนียบมาลากันยังวันอังคาร(4)ออกมาชี้แจงว่าการสั่งล็อกดาวน์รอบใหม่นั้นจะไม่สามารถกระทำได้ในระยะยาว โดยโฆษกดูเตอร์เต แฮร์รี โร๊ค(Harry Roque) กล่าวว่า “ระบบเศรษฐกิจไม่สามารถทนได้ต่อการล็อกดาวน์ระยะยาว”