รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกวันนี้ (2 ส.ค.) อยู่ที่ 684,075 คน ติดเชื้อรวม 17,793,532 คน ขณะที่ปักกิ่งล่าสุดได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญ 60 คน เข้าฮ่องกงเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส ขณะที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต เมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) ท่ามกลางการเกิดแผ่นดินไหวระดับ 6.4 ที่เกาะมินดาเนา ยืนยันยังไม่ฟังเสียงเรียกร้องจากหมอและแพทย์ที่ร้องขอให้สั่งล็อกดาวน์ฟิลิปปินส์รอบ 2 แต่แนะนำให้ประชาชนใช้น้ำมันแก๊สโซลีนทำความสะอาดหน้ากากอนามัย
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (2 ส.ค.) ว่า เจ้าหน้าการแพทย์จากปักกิ่งจำนวน 7 คน จากทั้งหมด 60 คน มีกำหนดที่จะเดินทางมาถึงฮ่องกงเพื่อทำการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งมโหฬารบนเกาะ
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (National Health Commission) ได้ประกาศการเดินทางมาถึงของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ
ทั้งนี้ พบว่า สมาชิกทีมเดินทางมาจากโรงพยาบาลรัฐต่างๆ ในมณฑลกวางตุ้ง ส่วนทีมผู้เชี่ยวชาญ 6 คน ที่มาจากเมืองอู่ฮั่น
ต้นกำเนิดการแพร่ระบาดจะช่วยเตรียมศูนย์เอเชียเวิลด์เอ็กซโป (AsiaWorld Expo) ให้เป็นสถานที่สำหรับการตรวจหาเชื้อ
และถือเป็นโครงการนำร่องครั้งแรกของจีนที่ช่วยฮ่องกงในการต่อต้านการแพร่ระบาดวิกฤตโควิด-19
อย่างไรก็ตาม มีชาวฮ่องกงบางส่วนเกรงว่า ปักกิ่งอาจใช้โอกาสนี้ทำการรวบรวมดีเอ็นเอของพวกตนเพื่อจุดประสงค์การสอดแนมโดยเฉพาะ
โดยผู้นำฮ่องกง แครี หล่ำ เมื่อวานนี้ (1) ออกแถลงต่อสาธารณะว่า ฮ่องกงได้ขอความร่วมมือไปที่รัฐบาลกลางปักกิ่งให้ช่วยเหลือในการจัดการการระบาดรอบใหม่ ซึ่งในเวลานี้ทางรัฐบาลกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาว่า
ทุกคนสมควรต้องเข้ารับการตรวจหรือไม่ สำนักข่าวฮ่องกง RTHK รายงาน
ฮ่องกงนั้นมีการระบาดรอบใหม่เมื่อกรกฎาคมแต่นับตั้งแต่การระบาดหนแรก พบว่า ฮ่องกงมีเคสผู้ป่วยสะสมทั้งหมด
3,400 ราย และเสียชีวิต 34 คน
ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกวันนี้ (2 ส.ค.) อยู่ที่ 684,075 คน ติดเชื้อรวม 17,793,532 คน สหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 154,361 คน และติดเชื้อรวม 4,620,419 คน
ขณะเดียวกัน ฟิลิปปินส์ อ้างอิงจากกระทรวงสาธารณสุขมะนิลา ผ่านการรายงานของรอยเตอร์พบว่า
ภายในแค่ 1 วัน เห็นเคสใหม่เพิ่มเกือบ 5,000 ราย และเสียชีวิต 17 คน ส่งผลทำให้มีผู้ติดเชื้อรวม 98,232 คน ในวันอาทิตย์ (2) และเสียชีวิตรวม 2,039 คน
ซึ่งในวันเสาร์ (1) ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต ประกาศให้ทีมโต้ตอบวิกฤตไวรัสโคโรนาออกมาตอบสนองความกังวลของแพทย์และพยาบาลถึงการเพิ่มเคสไวรัสในประเทศ แต่ยืนยันยังไม่มีการสั่งปิดรอบใหม่ เกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่เกิดแผ่นดินไหวระดับ 6.4 ที่เกาะมินดาเนา
รอยเตอร์รายงานว่า ศูนย์แผ่นดินไหวเมดิเตอร์เรเนียนยุโรป EMSC (European Mediterranean Seismological Centre) ระบุว่า มีการพบแผ่นดินไหวความแรง 6.4 แมกนิจูด ในระดับความลึก 473 กิโลเมตร ที่เกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์
ด้านสำนักงานภูเขาไฟวิทยาฟิลิปปินส์ออกมาชี้ว่า คาดว่า น่าจะมีความเสียหายเกิดขึ้น และรวมไปถึงอาฟเตอร์ช็อก แต่ไม่มีความเสี่ยงการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานว่า การออกมาเรียกร้องของบรรดาแพทย์และพยาบาลฟิลิปปินส์ เพื่อให้มีการล็อกดาวน์อีกครั้ง เกิดขึ้นหลังจากมีการเพิ่มจำนวนขึ้นสูงของการติดเชื้อเป็นวันที่ 3 แต่ทางมะนิลายังคงสงสัยต่อข้อเรียกร้องจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เหล่านี้ที่ต้องการให้มีการปิดตายทั้งหมดต่อพื้นที่บริเวณกรุงมะนิลาที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น
ขณะที่ ดูเตอร์เต ในวันศุกร์ (31 ก.ค.) ได้ออกมาให้คำแนะนำที่เหลือเชื่อด้วยการชี้ว่า ประชาชนสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซลีนเป็นสารฆ่าเชื้อโรคหน้ากากอนามัยได้ พร้อมกับเน้นย้ำว่า “นี่ไม่ใช่มุกตลก”
โดยในการออกแถลงข่าวทางทีวีวันศุกร์ (31 ก.ค) ดูเตอร์เต กล่าวว่า “สิ่งที่ผมพูดเป็นความจริง” และเสริมต่อว่า “แค่ออกไปปั๊มน้ำมันและหยดลงซัก 2-3 หยด มันเป็นการฆ่าเชื้อโรคในตัว”
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ฟิลิปปินส์ ออกมาคัดค้านคำแนะนำของดูเตอร์เต ว่า น้ำมันเติมรถไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคบนหน้ากากอนามัยได้ “คุณไม่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซลีนทำความสะอาดได้
การสูดดมอาจทำให้เกิดปัญหากับร่างกายและอาจป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจอีกด้วย” โฮเซ ซานเตียโก (Jose Santiago)
ประธานสมาพันธ์แพทย์ฟิลิปปินส์แสดงความเห็น