เอเจนซีส์ – รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียประกาศภาวะภัยพิบัติทั่วรัฐ และห้ามประชาชนในเมลเบิร์นออกจากบ้านยามวิกาล หลังพบ “เคสลึกลับ” หลายร้อยคนที่ติดเชื้อโควิด-19
ขณะที่ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอเมริกา อังกฤษ และสเปน กลับมาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในระดับต่างๆ แดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (2 ส.ค.) เพิ่มมาตรการจำกัดในระดับสูงสุดเพื่อสกัดจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่สามารถติดตามได้
เขาบอกว่า ถ้าไม่บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 นาน 6 สัปดาห์ รัฐวิกตอเรียเสี่ยงที่จะต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 3 นานถึง 6 เดือนโดยที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มภาระหนักให้ระบบบริการสุขภาพ
ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 ประชาชนไม่สามารถเดินทางออกนอกรัศมี 5 กิโลเมตรจากบ้าน ออกกำลังกายนอกบ้านได้วันละ 1 ชั่วโมง แต่ละครอบครัวจะมีเพียงคนเดียวที่ออกไปซื้อของได้วันละครั้ง และเฉพาะเมลเบิร์นจะบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวระหว่างเวลา 20.00 – 5.00 น.
สำหรับการประกาศภาวะภัยพิบัติจะทำให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่อื่นๆ มีอำนาจมากขึ้นและสามารถบังคับใช้กฎใหม่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
รัฐนิวเซาธ์เวลส์ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลียยกระดับการแจ้งเตือนเช่นกันเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยเรียกร้องให้ประชาชนสวมหน้ากากระหว่างการใช้ระบบขนส่งสาธารณะและซื้อของ
ที่อเมริกา สื่อไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำข่าวการประชุมแห่งชาติพรรครีพับลิกันที่จัดขึ้นปลายเดือนนี้ที่รัฐนอร์ธแคโรไลนา และจะมีการเสนอชื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่สอง โดยโฆษกพรรคระบุว่า เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนา
ทรัมป์โจมตีว่า ที่นายแพทย์แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อชั้นนำและที่ปรึกษาสำคัญในการต่อสู้โควิด-19 ของทำเนียบขาว ระบุว่า อเมริกามีผู้ป่วยโควิดมากที่สุดในโลกคือกว่า 4.5 ล้านคน เนื่องจาก
รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นรับมือไม่เข้มแข็งนั้น “ไม่เป็นความจริง” แต่เป็นเพราะมีการตรวจหาผู้ติดเชื้อมากกว่าประเทศอื่นๆ
จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกือบ 17.8 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 683,000 คนทั่วโลก
ที่เยรูซาเลมและเทลอาวีฟ ชาวอิสราเอลหลายพันคนประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูลาออก เนื่องจากจัดการวิกฤตไวรัสและเศรษฐกิจผิดพลาด รวมทั้งยังมีปัญหาคอร์รัปชัน ผู้ประท้วงยังโจมตีบ้านพักชายหาดของเนทันยาฮูเพื่อระบายความโกรธแค้น โดยคนมากมายเชื่อว่า อิสราเอลผ่อนคลายมาตรการสกัดไวรัสเร็วเกินไป ทำให้โรคกลับมาระบาดใหม่
ในวันอาทิตย์ จีนส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 7 คนไปถึงฮ่องกง ซึ่งถือเป็นสมาชิกชุดแรกจากทั้งหมด 60 คนที่จะจัดการตรวจหาผู้ติดเชื้อบนเกาะนี้เพื่อหยุดยั้งการระบาดระลอก 3
ขณะเดียวกัน สหภาพครูและนักวิทยาศาสตร์ในอังกฤษเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรียืนยันว่า การเปิดโรงเรียนในเดือนนี้ปลอดภัยจริง ขณะที่ที่ปรึกษาชั้นนำของรัฐบาลแนะให้ปิดผับทั่วประเทศเพื่อให้สถานการณ์ปลอดภัยมากขึ้นสำหรับการเปิดเทอมใหม่
เม็กซิโกรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 9,556 คนในวันเสาร์ ซึ่งถือเป็นสถิติรายวันครั้งใหม่ และทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นเกือบ 425,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 784 คน รวมเป็น 47,472 คน แซงอังกฤษขึ้นเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดอันดับ 3 ของโลก
รายงานระบุว่า ฮูโก โลเปซ-กาเทลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณสุขเม็กซิโก ปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง
ที่ฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต สั่งทีมเฉพาะกิจไวรัสโคโรนาจัดการข้อกังวลของแพทย์และพยาบาลกว่าล้านคนที่ต้องการให้ฟื้นมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด หลังพบผู้ติดเชื้อสูงสุดทำสถิติ 3 วันซ้อน อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังตั้งข้อสงสัยในการเรียกร้องของแพทย์พยาบาลให้บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในย่านที่มีประชาชนหนาแน่นในและรอบๆ กรุงมะนิลา