เอเจนซีส์ – หลายประเทศในเอเชียเผชิญจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่พุ่งสูงขึ้นมาอีก ทำให้ผวาจะกลายเป็นการระบาดระลอกสอง จึงเร่งรีบงัดมาตรการเข้มข้นมาสกัดไวรัสอีกครั้ง โดยฮ่องกงประกาศใช้แนวทางการรักษาระยะห่างทางสังคมเข้มงวดที่สุด เวียดนามอพยพประชาชน 80,000 คนออกจากดานัง และออสเตรเลียเตือนอาจต้องขยายมาตรการล็อกดาวน์ในรัฐวิกตอเรีย
จีนที่เอาชนะไวรัสโคโรนาได้เป็นส่วนใหญ่มาหลายเดือน ออกมายืนยันเมื่อวันจันทร์ (27 ก.ค.) พบผู้ติดเชื้อใหม่ภายในประเทศ 57 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดภายหลังต้นเดือนมีนาคม โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในมณฑลซินเจียง ทางตะวันตกสุดของประเทศ
แต่มณฑลเหลียวหนิง ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือและติดชายแดนเกาหลีเหนือ ก็พบผู้ติดเชื้อใหม่ติดต่อกันเป็นวันที่ 5 และมณฑลจี้หลิน ซึ่งอยู่ติดกันกับเหลียวหนิง ได้พบเคสใหม่ 2 คน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับจากปลายเดือนพฤษภาคม
สำหรับที่ฮ่องกง เมื่อวันจันทร์ ได้ประกาศมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเข้มงวดที่สุด ครอบคลุมการห้ามกินอาหารในร้านอาหาร และห้ามรวมกลุ่มในที่สาธารณะเกิน 2 คน นอกจากนั้นยังบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในที่สาธารณะและในระบบขนส่งสาธารณะ มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันพุธ (29)
ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นวันละกว่า 100 คนในช่วง 5 วันล่าสุด และนับจากต้นเดือนนี้ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 คน หรือมากกว่า 40% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 2,700 คนซึ่งนับกันตั้งแต่ที่ไวรัสโคโรนาระบาดบนเกาะเมื่อปลายเดือนมกราคม
ด้านออสเตรเลียเตือนว่า อาจต้องขยายมาตรการล็อกดาวน์บางพื้นที่ในรัฐวิกตอเรียที่เดิมกำหนดไว้ 6 สัปดาห์ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทำสถิติรายวัน และไมเคิล คิดด์ รองที่ปรึกษาหลักด้านสาธารณสุขของรัฐบาลเตือนว่า จากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในขณะนี้ทำให้คาดว่า จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามมาในเร็วๆนี้
ในวันจันทร์ ออสเตรเลียรายงานยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 549 คน โดย 532 คนอยู่ในรัฐวิกตอเรีย รวมแล้วรัฐนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 4,500 คน หลังพบเคสใหม่รายวันในอัตราเลขสามหลักต่อเนื่องหลายสัปดาห์ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 6 คน เป็น 77 คน หรือเกือบครึ่งของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ
ที่ญี่ปุ่น รัฐบาลเตรียมขอให้ผู้นำธุรกิจยกระดับมาตรการรับมือไวรัส เช่น การเหลื่อมเวลาทำงาน และเพิ่มอัตราการทำงานจากที่บ้านให้เท่ากับช่วงที่ประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งจำนวนการเดินทางไปทำงานลดลง 70-80%
แม้ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการระบาดใหญ่ได้ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทำสถิติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในโตเกียวและเมืองสำคัญอื่นๆ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่า อาจเกิดการระบาดรอบสอง
ส่วนที่เวียดนาม ได้เริ่มอพยพประชาชน 80,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวภายในประเทศ ออกจากเมืองดานัง หลังพบคนท้องถิ่น 3 คนติดเชื้อเมื่อวันอาทิตย์ (26) หรือ 1 วันนับจากพบผู้ติดเชื้อในชุมชนคนแรกภายหลังเดือนเมษายน
ที่ฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ถูกคาดหมายว่า จะมุ่งเน้นปัญหาการระบาดของโควิด-19 และเศรษฐกิจระหว่างการปราศรัยประจำปีในวันจันทร์ ขณะที่มะนิลากำลังพิจารณาว่า ต้องบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดขึ้นหรือไม่ หลังพบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยนับจากปลดล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 62,326 คน
มาเลเซีย ถูกคาดหมายเช่นเดียวกันว่า จะประกาศมาตรการควบคุมการระบาดครั้งใหม่ หลังพบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนกว่าสิบจุด นับจากยกเลิกมาตรการจำกัดเมื่อเดือนที่แล้ว
ขณะเดียวกัน คาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในอินโดนีเซียจะแตะหลัก 100,000 คนในวันจันทร์ แซงหน้าจีน กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในแถบเอเชียตะวันออก
อย่างไรก็ดี ขณะที่หลายประเทศในเอเชียหวนกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์และมาตรการจำกัดอื่นๆ อินเดียกลับเดินหน้าปลดล็อกแม้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นจนขณะนี้มีจำนวนถึง 1.4 ล้านคน ถือเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดอันดับ 3 ของโลก รองจากอเมริกาและบราซิล
ขณะนี้ ทั่วโลกมีผู้ได้รับการยืนยันติดเชื้อทะลุ 16 ล้านคน โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ตัวเลขจริงน่าจะสูงกว่านี้มาก
ทางด้านสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 55,187 คน และเสียชีวิต 518 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รวมจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 4,229,624 คน เสียชีวิต 146,909 คน
ฟลอริดากลายเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดอันดับ 2 รองจากแคลิฟอร์เนีย โดยพบเคสใหม่ในวันอาทิตย์ถึง 9,300 คน เป็น 423,855 คน เฉลี่ยแล้วรัฐนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละกว่า 10,000 คนในเดือนนี้ กระนั้น รอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพับลิกัน ยืนยันว่า จะไม่บังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในที่สาธารณะ และโรงเรียนจะต้องเปิดในเดือนหน้า