รอยเตอร์ - เป็นเวลา 67 วัน ที่ เกาะปรินซ์ เอ็ดเวิร์ด ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แม้แต่รายเดียว แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปในช่วงเดือนนี้ เมื่อรัฐที่มีขนาดเล็กสุดของแคนาดา แถลงพบกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อใหม่ที่เชื่อมโยงกับนักศึกษาต่างชาติคนหนึ่งที่เดินทางจากสหรัฐฯเข้าสู่แคนาดา
นักศึกษารายนี้ ซึ่งไม่ยอมกักกันโรคตนเองโดยทันที เมื่อเดินทางเข้าสู่แคนาดา ตามข้อบังคับของกฎหมาย ได้แพร่เชื้อสู่คนอื่นอีกอย่างน้อย 1 คน และต่อมาบุคคลรายดังกล่าวก็แพร่เชื้อต่อสู่คนอื่นๆ อีกอย่างน้อย 4 คน
จากข้อมูลที่เผยแพร่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเกาะปรินซ์ เอ็ดเวิร์ด พบว่าจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม พบผู้ติดเชื้อแล้ว 36 คน แต่ในนั้น 31 คน รักษาหายแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการพบกลุ่มก้อนการแพร่ระบาด ส่งผลให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตรวจโรคผู้คนกว่า 17,000 คนเลยทีเดียว
“ด้วยที่มีผู้คนหลายหมื่นคนเดินทางข้ามชายแดนในทุกๆ วัน ไม่มีทางที่จะบังคับให้พวกเขาปฏิบัติตามกฎระเบียบได้ทั้งหมด” คอลิน ฟูร์เนสส์ นักระบาดวิทยาและผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโตรอนโตกล่าว “มันน่ากลัวพอสมควร”
แม้จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ในแคนาดาจะอยู่ในระดับไม่รุนแรงมากนัก แต่การแพร่ระบาดระลอกใหม่ในสหรัฐฯกลายเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่แคนาดา ที่ต้องจัดการกับทั้งนักเดินทางไม่พึงประสงค์ที่ลอบข้ามพรมแดนเข้ามา และนักเดินทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ฝ่าฝืนกฎระเบียบกักกันโรคอันเข้มงวด
แม้มีการปิดชายแดนสำหรับการเดินทางที่ไม่มีความจำเป็นมาตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม แต่ชาวแคนาดาที่เดินทางกลับประเทศ, คนงานของภาคธุรกิจที่จำเป็น, คนขับรถบรรทุก, ช่าวต่างชาติที่ประสงค์เยี่ยมครอบครัว และแม้แต่ชาวอเมริกันที่ขับรถมาจากอะแลสกา ล้วนยังได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสู่แคนาดา
กฎหมายบังคับให้บุคคลในกลุ่มนี้ต้องกักกันโรคตนเองเป็นเวลา 14 วัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ปฏิบัติตาม
จนถึงตอนนี้สำนักงานสาธารณสุขแคนาดา ได้ติดต่อไปยังชาวต่างแดน 175,723 คน เพื่อตรวจสอบว่าพวกเขาปฏิบัติตามมาตรการกักกันโรคหรือไม่
มีรายงานข่าว สามีภรรยาจากฟลอริดาคู่หนึ่งถูกปรับเงินในรัฐออนแทริโอในสัปดาห์นี้ โทษฐานละเมิดกฎหมายกักกันโรค หลังจากคู่รักจากมินนิโซตา ก็เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่ในรัฐแห่งนี้ปรับเงินเช่นกัน
ในส่วนพลเมืองแคนาดาก็ถูกตรวจสอบอย่างละเอียดเช่นกัน โดยมีกรณีผู้บริหารระดับสูง 3 คน ของบริษัทผู้ให้บริการต่อเรือ Irving Shipbuilding ได้รับข้อยกเว้นให้เดินทางไปยังสหรัฐฯในเดือนมิถุนายน แต่ไม่ยอมกักกันโรคตนเองตอนกลับเข้าประเทศ จนกระทั่งมีเสียงเดือดดาลมาจากประชาชน เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขท้องถิ่นจึงยอมกลับลำสั่งให้ทั้ง 3 คนทำการกักกันโรคตนเอง
ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวแคนาดา พบว่า มีถึง 81% ที่บอกว่าต้องการให้ปิดชายแดนต่อไป ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดในสหรัฐฯ หลังจากในอเมริกาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากถึง 77,000 คนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (16 ก.ค.) ซึ่งถือเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด
แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งทะยานในอเมริกา แต่รัฐบาลแคนาดากำลังถูกกดดันจากกลุ่ม ส.ส.สหรัฐฯ 29 คน ที่ต้องการให้แคนาดากลับมาเปิดชายแดนแบบค่อยเป็นค่อยไป และจากฝ่ายสนับสนุนการพบญาติ ซึ่งบอกว่ามันไม่ยุติธรรมที่คนแต่งงานแล้วสามารถเดินทางข้ามพรมแดนไปมาหาสู่สามีหรือภรรยาได้ตามปกติ ผิดกับคนที่ยังเป็นแฟนหรือคู่สมรสที่อยู่ภายใต้คำสั่งแยกกันอยู่ ที่ไม่สามารถทำได้
