xs
xsm
sm
md
lg

ฮ่องกง-ฝรั่งเศสบังคับสวมหน้ากาก ทรัมป์ให้ผู้ว่าการแต่ละรัฐตัดสินใจ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ – ฮ่องกง ฝรั่งเศส และบางพื้นที่ในออสเตรเลีย บังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในที่สาธารณะ ส่วนทรัมป์โยนให้ผู้ว่าการแต่ละรัฐตัดสินใจเอง ขณะที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำลังพยายามสุดกำลังเพื่อสกัดอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกจนถึงวันอาทิตย์ (19 ก.ค.) เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 14.5 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 605,000 คน

แม้อเมริกาเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด มีผู้ติดเชื้อเกือบ 3.7 ล้านคน และเสียชีวิต 140,000 คน แต่ยังคงล้มเหลวในการกำหนดกรอบโครงการรับมือที่สอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ยอมออกคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากในที่สาธารณะ ซ้ำวิจารณ์ว่า แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและสมาชิกทีมต่อสู้ไวรัสของทำเนียบขาว “ตื่นตูมไปหน่อย”

ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ "ฟ็อกซ์ นิวส์" เมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาเชื่อว่าหน้ากากมีประโยชน์ แต่จะให้ผู้ว่าการแต่ละรัฐตัดสินใจเองว่าจะบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในที่สาธารณะหรือไม่

หนังสือพิมพ์ "นิวยอร์ก ไทมส์" รายงานว่า การตัดสินใจดังกล่าวทำให้นโยบายของอเมริกาไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน รัฐกว่าครึ่งประกาศให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน แต่การที่คนอเมริกันจำนวนมากรู้สึกว่า คำสั่งดังกล่าวรุกล้ำเสรีภาพส่วนบุคคล ผู้ว่าการบางรัฐจึงไม่บังคับเรื่องนี้

ส่วนที่ออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ในรัฐวิกตอเรียที่บังคับให้ประชาชนราว 5 ล้านคนทั้งในและรอบๆ เมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐ ต้องสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าคลุมหน้าเมื่ออยู่ในที่สาธารณะตั้งแต่วันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) ผู้ฝ่าฝืนอาจถูกปรับ 140 ดอลลาร์

ในวันจันทร์ (20 ก.ค.) รัฐวิกตอเรียพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงสุด 275 คน โดยเกือบ 150 คนรักษาตัวในโรงพยาบาล และมี 31 คนอยู่ในแผนกผู้ป่วยวิกฤต

เช่นเดียวกับที่ประเทศฝรั่งเศสที่คาดโทษปรับ 154 ดอลลาร์ สำหรับผู้ฝ่าฝืนกฎ ไม่ยอมสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะภายในอาคาร ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์

ส่วนฮ่องกงประกาศใช้มาตรการเข้มงวดเช่นเดียวกัน โดยในวันอาทิตย์ (19 ก.ค.) แคร์รี่ ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งขึ้นเกิน 100 คนเป็นครั้งแรก

ก่อนหน้านี้ลัมบังคับให้ธุรกิจปิดทำการ และบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในระบบขนส่งสาธารณะ แต่ล่าสุดผู้นำฮ่องกงระบุว่า อาจบังคับให้สวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะภายในอาคารเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน ผู้นำยุโรปพยายามปกป้องมาตรการส่งเสริมการฟื้นตัวจากวิกฤตโรคระบาดมูลค่า 860,000 ล้านดอลลาร์ระหว่างการประชุมสุดยอดเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งแม้ประเด็นสำคัญที่สุดในสายตาบรรดาผู้วางนโยบายคือการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เกี่ยวกับรายละเอียดของมาตรการช่วยเหลือขนาดใหญ่นี้ ที่จะมอบให้ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป เตือนที่ประชุมว่า ไวรัสโคโรนาทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 600,000 คนทั่วโลก ซึ่งรวมถึง 200,000 คนในยุโรป และเรียกร้องผู้นำ 27 ชาติสมาชิกร่วมมือกันเพื่อทำให้ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้นี้ประสบความสำเร็จด้วยการสร้างความเป็นปึกแผ่นและความไว้วางใจ

ที่แอฟริกาใต้ ยอดผู้เสียชีวิตผ่านหลัก 5,000 คนเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 85 คน และผู้ติดเชื้อใหม่ 13,449 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 364,328 คน

จีนพบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 17 คนในมณฑลซินเจียง และเมืองอุรุมชี เมืองหลวงของมณฑลนี้ เข้าสู่ “สถานะสงคราม”

คิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ตำหนิบรรดาผู้จัดการโครงการก่อสร้างเกี่ยวกับปัญหาบางอย่างในการสร้างโรงพยาบาลตัวอย่าง ซึ่งอาจบ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือกำลังมีปัญหากับการจัดหาชิ้นส่วนอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ ท่ามกลางการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และการล็อกดาวน์เพื่อสกัดไวรัสโคโรนา

ปาปัวนิวกินีพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 คนแรกในประเทศและในแถบหมู่เกาะแปซิฟิกนอกเหนือจากดินแดนของอเมริกา ขณะที่รัฐบาลพยายามควบคุมการระบาดในโรงพยาบาลหลักของกรุงพอร์ตมอร์สบี

ประธานาธิบดีนายิบ บูเกเลของเอลซัลวาดอร์ เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะเลื่อนการเปิดเศรษฐกิจเฟส 2 ออกไปก่อน จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันอังคาร (21 ก.ค.) หลังจากประเมินข้อมูลสถานการณ์โรคระบาดจากผู้เชี่ยวชาญและกระทรวงสาธารณสุข
กำลังโหลดความคิดเห็น