ท่าทางไม่ดี! ฝรั่งเศสบังคับสวมหน้ากากในที่ร่ม หลังพบสัญญาณโควิด-19 ระบาดซ้ำ

เอเอฟพี - ฝรั่งเศสจะบังคับสวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในสถานที่สาธารณะในร่ม ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จากการเปิดเผยของรัฐบาลในวันพฤหัสบดี (16 ก.ค.) หลังพบสัญญาณการกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งของผู้ติดเชื้อโควิด-19

ฌอง กัสเต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กล่าวต่อรัฐสภาว่า นับตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป การสวมหน้ากากจะเป็นมาตรการบังคับตามห้างร้านต่างๆ, ซูเปอร์มาร์เก็ต และสถานที่ปิดอื่นๆ ซึ่งมีประชาชนมาใช้บริการเป็นประจำ หลังบังคับสวมหน้ากากยามอยู่บนรถไฟ, รถไฟใต้ดินและรถบัส ไปก่อนหน้านี้แล้ว

“การสวมหน้ากาก เช่นเดียวกับมาตรการป้องกันอื่นๆ (อาทิ เว้นระยะห่างทางสังคมและล้างมือเป็นประจำ) เป็นวิธีป้องกันและปกป้องที่ได้ผล” เขากล่าว

คำแถลงนี้มีขึ้นหลังจาก โอลิวิเยร์ วาราน รัฐมนตรีสาธารณสุข เน้นย้ำว่า พบสัญญาณการฟื้นคืนชีพของโรคระบาดใหญ่ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนในฝรั่งเศสไปแล้ว 30,120 คน “การระมัดระวังอย่างไม่ลดละ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน” เขาบอกกับสมาชิกรัฐสถา “โดยเฉพาะในเวลาที่ข้อมูลบางอย่างบ่งชี้ถึงสัญญาณการฟื้นคืนของไวรัส”

ก่อนหน้านี้ วาราน ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีวิทยุแห่งรัฐ ว่า “เรากำลังพบเห็นโรงพยาบาลบางแห่งในกรุงปารีส แสดงสัญญาณอ่อนๆเกี่ยวกับการฟื้นคืนของโรคระบาดใหญ่ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงเรียกร้องให้ชาวฝรั่งเศสยังคงอยู่ในความระมัดระวัง กระตือรือร้น รับมือกับไวรัส”

จากข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (15 ก.ค.) ฝรั่งเศส มีคนไข้โควิด-19 รายใหม่ที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 133 คนในช่วง 24 ชั่วโมง และอีก 17 คนต้องเข้าไอซียู ส่งผลให้รวมแล้วเวลานี้ ฝรั่งเศส มีผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตัวในโรงพยาบาล 482 คน

ตัวเลขดังกล่าวลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดที่เคยมีคนไข้รักษาตัวโรงพยาบาลมากถึง 4,281 คนในหนึ่งวัน เมื่อเดือนเมษายน และเคยมีคนไข้ต้องเข้าไอซียูมากกว่า 7,100 คนในช่วงพีคสุดของโรคระบาดใหญ่

วารานบอกว่า จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น และสายโทรศัพท์จำนวนมากที่โทรมายังหน่วยฉุกเฉิน เป็นหนึ่งในเครื่องบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ว่าโรคระบาดใหญ่อาจดีดตัวขึ้นอีกรอบ ซึ่งจำเป็นต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ

เดิมที รัฐบาลฝรั่งเศส ก็เหมือนกับประเทศอื่นๆ ที่ไม่ห็นด้วยกับการสวมหน้ากากป้องกันโควิด-19 ในช่วงต้นของการแพร่ระบาด โดยเรียกร้องประชาชนสงวนหน้ากากอนามัยที่มีอยู่อย่างจำกัดไว้ให้บุคลากรทางการแพทย์

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนในวันที่ 11 พฤษภาคม ฝรั่งเศสได้บังคับสวมหน้ากากบนระบบขนส่งสาธารณะ โดยหากใครไม่ปฏิบัติตามจะถูกลงโทษโดยการปรับเงิน นอกจากนี้ ยังบังคับให้สวมหน้ากากยามอยู่ในสถานที่ต่างๆ อย่างเช่นพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ดิสนีย์แลนด์ปารีสและหอไอเฟล