เอเอฟพี - การสวมหน้ากากในห้างร้านและซูเปอร์มาร์เกตต่างๆ ในอังกฤษ จะกลายเป็นมาตรการบังคับนับตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จากคำแถลงของ แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขในวันอังคาร (14 ก.ค.) ในความเคลื่อนไหวที่เป็นการกลับลำจากนโยบายก่อนหน้านี้
กฎหมายใหม่จะมีผลบังคับใช้ในอังกฤษในวันที่ 24 กรกฎาคม แฮนค็อก บอกกับรัฐสภา หลายสัปดาห์หลังจากเหล่าคณะรัฐมนตรีทะเลาะโต้เถียงกันเกี่ยวกับประสิทธิผลของการสวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
“เราต้องการมอบความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่า ห้างร้านต่างๆ มีความปลอดภัย และเสริมมาตรการป้องกันแก่กลุ่มคนที่ทำงานอยู่ตามห้างร้านทั้งหลาย” แฮนค็อก บอกกับสมาชิกรัฐสภา “ทั้งสองอย่างนี้สามารถทำได้โดยการใช้หน้ากากปิดใบหน้า”
ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ได้แจ้งความเคลื่อนไหวนี้ล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อคืนวันจันทร์ (13 ก.ค.) ที่ผ่านมา
จอห์นสัน ซึ่งต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูนานหลายวัน หลังติดเชื้อโควิด-19 บอกว่า มาตรการนี้คือ การป้องกันพิเศษเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 “ผมคิดว่า เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่ควรสวมหน้ากากในห้างร้านต่างๆ การสวมหน้ากากเป็นสิ่งที่สำคัญมากหากคุณกำลังไปที่สถานที่ซึ่งมีพื้นที่จำกัด เพื่อปกป้องคนอื่นและคุณเองก็จะได้รับการปกป้องเช่นกัน” เขากล่าวเมื่อวันจันทร์ (13 ก.ค.)
การบังคับใช้มาตรการสวมหน้ากากจะดำเนินการโดยตำรวจ และใครก็ตามที่ไม่ยอมสวมหน้ากากตอนเข้าไปในห้างร้านและซูเปอร์มาร์เกตจะถูกปรับเงินสูงสุด 100 ปอนด์ (ราว 3,900 บาท)
รัฐบาลอังกฤษถูกกดดันมานานหลายสัปดาห์ ให้มอบคำแนะนำที่ชัดเจนเกี่ยวกับการสวมหน้ากากภายในห้างร้านต่างๆ ที่ส่วนใหญ่กลับมาเปิดบริการแล้ว หลังต้องปิดทำการนานกว่า 3 เดือน จากมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ส่งสารแห่งความสับสนเมื่อวันอาทิตย์ (12 ก.ค.) แสดงท่าทีปฏิเสธมาตรการบังคับสวมหน้ากากป้องกันโควิด-19 โดยอ้างว่าคณะรัฐมนตรีเชื่อมั่นต่อจิตสำนึกของประชาชน
ก่อนหน้านี้ อังกฤษบังคับสวมหน้ากากมาตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน แต่บังคับใช้เฉพาะยามใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะเท่านั้น ผิดกับในสกอตแลนด์ที่บังคับลูกค้าสวมหน้ากากยามเข้าไปในห้างร้านต่างๆ มานานแล้ว
พรรคแรงงาน พรรคฝ่ายค้านหลัก กล่าวหารัฐบาลว่าปล่อยให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ไปหลายวัน และก่อความสับสนในประเด็นนี้ พร้อมตั้งคำถามว่าทำไมต้องรออีก 11 วัน มาตรการดังกล่าวถึงจะมีผลบังคับใช้
อย่างไรก็ตาม พวกผู้เชี่ยวชาญสนับสนุนความเคลื่อนไหวปรับเปลี่ยนแนวทางรับมือกับโควิด-19 ของรัฐบาลในครั้งนี้ โดย เดวิด สเตรน จากสมาคมการแพทย์อังกฤษ บอกว่า มันจะช่วยชะลอการแพร่ระบาดของไวรัส
ในส่วนของความคิดเห็นประชาชน พบว่า มีความเห็นแตกแยกกันระหว่างผู้สนับสนุนและต่อต้านมาตรกาสวมหน้ากาก โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ ที่ #NoMasks กลายเป็นแฮชแท็กที่ติดเทรนด์บนทวิตเตอร์