เอเจนซีส์ – สองมหาอำนาจโลกขัดแย้งหนัก จีนลั่นพร้อมตอบโต้ หลังทรัมป์ลงนามคำสั่งยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกง รวมทั้งรับรองกฎหมายแซงก์ชันธนาคารจีนเพื่อลงโทษที่ปักกิ่ง “กดขี่” เขตบริหารพิเศษของแดนมังกรแห่งนี้ นอกจากนี้จีนยังประกาศแซงก์ชันล็อกฮีด มาร์ติน บริษัทผลิตอาวุธชั้นนำของอเมริกา โทษฐานที่ขายอาวุธให้ไต้หวัน
ในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร (14 ก.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ตนเป็นผู้นำสหรัฐฯที่แข็งกร้าวกับจีนมากที่สุด และเสริมว่า เขาได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อใช้กับฮ่องกงซึ่งคาดว่า จะกลายเป็นเมืองที่ไร้ความสงบสุข ไร้สิทธิและเสรีภาพ และทำให้ประชาชนจำนวนมากหลบหนีออกมา
ประมุขทำเนียบขาวระบุว่า จากนี้ไปฮ่องกงจะได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกันกับจีน ไม่มีสิทธิพิเศษ ไม่ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษในทางเศรษฐกิจ และไม่มีการส่งออกเทคโนโลยีอ่อนไหวให้อีกต่อไป
ทรัมป์ยังลงนามประกาศบังคับใช้กฎหมายการปกครองตนเองของฮ่องกง ที่ผ่านการลงมติของ 2 สภาสหรัฐฯแล้วด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น โดยเนื้อหาของกฎหมายนี้กำหนดให้อเมริกาแซงก์ชันพวกเจ้าหน้าที่จีนและตำรวจฮ่องกงที่ละเมิดอำนาจการปกครองตนเองของฮ่องกง รวมไปถึงพวกธนาคารที่ทำธุรกรรมสำคัญกับบุคคลเหล่านั้น
บรรดาสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ วาดหวังว่า กฎหมายใหม่ฉบับนี้จะบังคับให้ธนาคารอื่นๆ ยกเว้นธนาคารท้องถิ่นของจีน ต้องเลือกระหว่างการสนับสนุนความพยายามของปักกิ่งในฮ่องกง หรือการที่ยังสามารถทำธุรกรรมในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และทำธุรกรรมในอเมริกาได้
นอกจากนั้น ทรัมป์ยังย้ำว่า จีนต้องรับผิดชอบในการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาและความล้มเหลวในการหยุดยั้งโรคระบาดนี้ และสำทับว่า ไม่มีแผนพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน
ต่อมาในวันพุธ (15) กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า จะตอบโต้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของประเทศ และแซงก์ชันบุคคลและนิติบุคคลอเมริกันที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายการปกครองตนเองของฮ่องกง ซึ่งออกมาเพื่อมุ่งทำลายกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงของประเทศจีน
ทั้งนี้ ปักกิ่งเพิกเฉยต่อคำเตือนของพวกชาติตะวันตก และบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงดังกล่าว ซึ่งกำหนดโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิตเพื่อจัดการผู้ที่พยายามโค่นล้มรัฐบาล แบ่งแยกดินแดน ก่อการร้าย และสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ ในการบ่อนทำลายความมั่นคงในฮ่องกง
เมื่อวันจันทร์ (13) ทางการจีนยังออกมาเตือนว่า การที่พวกพรรคการเมืองซึ่งมีแนวทางเรียกร้องประชาธิปไตยของฮ่องกง จัดการหยั่งเสียงคัดเลือกผู้สมัครที่สมควรส่งลงเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงซึ่งจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยที่มีชาวฮ่องกง 600,000 คนไปร่วมโหวตไพรมารีในคราวนี้นั้น เป็นพฤติการณ์ยั่วยุอย่างรุนแรงและอาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่
ด้านไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาแถลงยกย่องการหยั่งเสียงดังกล่าว และเรียกร้องให้ฮ่องกงจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนอย่างเสรีและเป็นธรรม
พอมเพโอยังประกาศว่า การอ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ของจีนละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ขณะเดียวกัน เจ้า ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันพุธ เรียกร้องให้อเมริกาหยุดขายอาวุธให้ไต้หวันเพื่อหลีกเลี่ยงการบ่อนทำลายความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ มากไปกว่านี้ รวมถึงความสงบสุขและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน
เจ้าสำทับว่า เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ จีนตัดสินใจดำเนินมาตรการที่จำเป็นและประกาศแซงก์ชันบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน ซึ่งเป็นผู้รับเหมาสัญญาหลักในการขายอาวุธให้ไทเป
ทางด้านล็อกฮีด มาร์ตินออกคำแถลงว่า การขายอาวุธให้กองทัพต่างชาติเป็นการทำธุรกรรมระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล และบริษัททำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ลูกค้าต่างชาติ
ถึงแม้ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน รวมทั้งได้ให้คำมั่นเมื่อตอนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับปักกิ่งว่าจะเคารพนโยบาย “จีนเดียว” แต่อเมริกาก็ยังคงมีกฎหมายที่กำหนดให้ความช่วยเหลือไต้หวันให้สามารถปกป้องตนเองได้