La vieja normalidad de Punta Ballena, Magaluf. Vídeo de: Michels. @UHmallorca pic.twitter.com/0gc8YXi5ha
— Guillermo Esteban (@GuillEsteban) July 11, 2020
เดอะการ์เดียน - ชาวสเปนต่างพากันกังวลว่าความเสียสละต่างๆ นานาของพวกเขาระหว่างล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อาจมีอันต้องสูญเปล่า หลังจากปรากฏวิดีโอนักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังเมามาย เพิกเฉยกฎระเบียบด้านมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงไม่สวมหน้ากากป้องกันด้วย
หลังวิดีโอนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษอยู่ในสภาพเมามาย จับกลุ่มร้องเพลงเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน บางส่วนปีนขึ้นไปบนหลังคารถ ในเมืองมากาลุฟ บนเกาะมายอร์กา ประเทศสเปน กลายเป็นคลิปฮิตติดกระแส ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “ในขณะที่หลายพื้นที่ของสเปนอยู่ในมาตรการล็อกดาวน์ คนสูงวัยต้องขังตัวเองอยู่ในบ้านพักคนชรา เราทุกคนสวมหน้ากากบนท้องถนน แต่ในมากาลุฟ พวกคนอังกฤษต่อต้านสังคมและไร้ความรับผิดชอบ ทำอะไรตามใจตนเอง มันน่าอดสูนัก” ข้อความบนทวิตเตอร์ระบุ
มีข้อถกเถียงกันอย่างกว้างขวางระหว่างพวกชาวบ้านกับนักท่องเที่ยว เกี่ยวกับประเด็นนี้ที่มากาลุฟและเมืองต่างอื่นๆ บนเกาะมายอร์กา ท่ามกลางรายงานข่าวว่ามีการลักลอบจัดปาร์ตี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของเกาะมากกว่า 60 งาน ซึ่งตามข้อบังคับแล้ว ผู้จัดปาร์ตี้ผิดกฎหมายลักษณะดังกล่าวจะถูกปรับเงินสูงสุด 600,000 ยูโร (ราว 21 ล้านบาท)
ก่อนหน้านี้ เยนส์ สปาห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขของเยอรมนี เพิ่งออกมาประณามกลุ่มวัยรุ่นเยอรมนี ที่จัดปาร์ตีกันในเมืองมายอร์กา โดยไม่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ใดๆ “เราจำเป็นต้องพยายามป้องกันการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้อยู่ในฤดูกาลท่องเที่ยว เราไม่ต้องการเห็นการแพร่ระบาดระลอกสองในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ถ้าร่วมแรงร่วมใจกันทั้งสังคม เราก็จะสามารถป้องกันได้ ดังเช่นที่เราเคยทำมาแล้ว”
เช่นเดียวกับแคว้นกาตาลุญญา และแคว้นอันดาลูเซีย ทางเกาะมายอร์กา ออกข้อกำหนดบังคับสวมหน้ากากยามออกไปนอกที่พักอาศัย แม้กระทั่งตามสถาบันหรือหน่วยงานต่างๆ ซึ่งไม่มีปัญหาด้านการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยมีข้อยกเว้นเพียงแค่ตามชายหาดและระหว่างเล่นกีฬาเท่านั้น
การสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างทางสังคม กลายเป็นวิถีปฏิบัติของชาวสเปนส่วนใหญ่ ซึ่งพากันตกอกตกใจต่อภาพในคลิปวิดีโอ ที่พบเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่นกำลังเมามายและเตร็ดเตร่เป็นกลุ่มใหญ่อยู่บนท้องถนน โดยแทบไม่มีใครสวมหน้ากากป้องกัน
เดิมทีคนสเปนก็อกสั่นขวัญแขวนอยู่ก่อนแล้วกับแนวทางปล่อยไปตามอิสระของอังกฤษในการรับมือกับโควิด-19 และเกรงว่านักท่องเที่ยวจะเป็นชนวนเหตุของการแพร่ระบาดระลอกสอง ในขณะที่ประเทศของพวกเขาสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้วเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งก็มีความกังวลว่าเศรษฐกิจของประเทศอาจได้รับความเสียหายในระยะยาว หากการท่องเที่ยวไม่ฟื้นตัว โดยภาคอุตสาหกรรมนี้คิดเป็น 12% ของจีดีพี และพื้นที่ต่างตามแนวชายฝั่งและหมู่เกาะทั้งหลาย คือแหล่งรายได้และการจ้างงานที่สำคัญ ทั้งนี้ มายอร์กา มีประชากรราวๆ 900,000 คน และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเมื่อปีที่แล้วกว่า 10 ล้านคน