เอเอฟพี - คนขับรถบัสฝรั่งเศสซึ่งบาดเจ็บสาหัสจากการถูกแก๊งวัยรุ่นรุมกระทืบ เพราะไม่พอใจที่ถูกเรียกร้องให้สวมหน้ากากอนามัยก่อนขึ้นรถ ได้เสียชีวิตลงแล้วตามการยืนยันของครอบครัว ขณะที่นักการเมืองฝรั่งเศสออกมาแถลงไว้อาลัยต่อผู้ตายและประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุว่าเป็นพวก “ขี้ขลาดตาขาว”
ฟิลิปป์ มงกิลโลต์ (Philippe Monguillot) คนขับรถบัสวัย 59 ปี ถูกรุมทำร้ายจนสมองตายที่เมืองบายอนน์ (Bayonne) เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) หลังจากที่ครอบครัวของเขาตัดสินใจให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจ
“เราตัดสินใจปล่อยให้คุณพ่อจากไปอย่างสงบ คุณหมอแนะนำแบบนี้ ซึ่งพวกเราก็เห็นด้วย” มารี บุตรสาวของผู้ตาย ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
ตำรวจได้ตั้งข้อหาชาย 2 คนฐานพยายามฆ่า แต่ล่าสุดอัยการ เจอโรม บูร์ริเย่ ยืนยันกับเอเอฟพีว่า เตรียมเพิ่มข้อหาให้หนักขึ้นอีกหลังจากที่ มงกิลโลต์ เสียชีวิต
นายกรัฐมนตรี ฌ็อง กัสเตกซ์ แห่งฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในผู้นำทางการเมืองที่ออกมากล่าวไว้อาลัยต่อการจากไปของคนขับรถบัสผู้เคราะห์ร้าย
“สาธารณรัฐฝรั่งเศสถือว่าเขาเป็นพลเมืองตัวอย่างที่จะไม่มีวันถูกลืมเลือน กฎหมายจะลงโทษผู้ที่ก่ออาชญากรรมอันชั่วร้ายนี้” กัสเต็กซ์ ทวีตข้อความ พร้อมประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นการกระทำอย่าง “ขี้ขลาดตาขาว”
เจอรัลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส เตรียมเดินทางไปพบกับคนขับรถบัสที่เมืองบายอนน์ในวันนี้ (11) เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความปลอดภัย และย้ำว่า “พวกคนขี้ขลาดที่ทำเรื่องนี้จะไม่มีทางลอยนวลไปได้”
ครอบครัวของ มงกิลโลต์ ได้จัดการเดินขบวนอย่างสงบจากบริเวณป้ายรถเมล์ที่เกิดเหตุเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาเมื่อวันพุธ (8) ขณะที่เพื่อนร่วมงานของ มงกิลโลต์ ก็พร้อมใจกันหยุดงานหลังจากเกิดเรื่องขึ้น แต่จะกลับมาทำงานตามปกติในวันจันทร์นี้ (13) ภายใต้มาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่าเดิม
ผู้ต้องหาพยายามฆ่าทั้ง 2 คน เป็นชายอายุ 22 และ 23 ปี ซึ่งเคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน ขณะที่อัยการฝรั่งเศสยังได้สั่งฟ้องบุคคล 2 คนฐานไม่ให้ความช่วยเหลือผู้ที่กำลังตกอยู่ในอันตราย และอีก 1 คนฐานให้ที่หลบซ่อนตัวแก่ผู้ต้องสงสัย