รอยเตอร์/เอเอฟพี - ประธานาธิบดี อเล็กซานดาร์ วูซิช แห่งเซอร์เบียในวันพุธ (8 ก.ค.) เรียกร้องประชาชนหยุดเข้าร่วมประท้วงต่อต้านรัฐบาล เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
เสียงเรียกร้องของ วูซิช มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากฝูงชนรวมตัวกันฝ่าเคอร์ฟิว ประท้วงคัดค้านแผนล็อกดาวน์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ การชุมนุมที่เลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรง จนเกิดการปะทะกับตำรวจและมีการบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา แต่กระนั้นพรรคฝ่ายค้านบางส่วนได้เร่งเร้าบรรดาผู้สนับสนุนออกมาประท้วงกันอีกครั้งในช่วงบ่ายวันพุธ (8 ก.ค.)
“ไม่เหลือเตียงว่างตามดรงโรงพยาบาลต่างๆ ของเรา เราจะเปิดโรงพยาบาลใหม่” วูซิช กล่าวปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน๋แห่งชาติ
ประชาหลายพันคนไหลบ่าลงสู่ใจกลางกรุงเบลเกรด เมืองหลวงของเซอร์เบีย เมื่อช่วงค่ำวันอังคาร (7 ก.ค.) เพื่อประท้วงแผนคืนสู่คำสั่งเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงของรัฐบาล ในความพยายามต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมอย่างสันติในเบื้องต้น ได้เลี้ยวเข้าสู่เหตุปะทะ หลังตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วง ที่บางส่วนบุกเข้าไปยังอาคารรัฐสภา กระตุ้นให้ผู้ประท้วงขว้างปาก้อนกินและวัตถุอื่นๆเข้าใส่เจ้าหน้าที่
มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคนและราวๆ 20 คน ถูกจับกุม จากเหตุกระทบกระทั่งดังกล่าว ขณะที่ในส่วนของความเสียหายอื่นๆ นั้น พบว่า ถังขยะและรถตำรวจหลายคันถูกจุดไฟเผา
สถานการณ์ความตึงเครียด เริ่มจากเมื่อช่วงเย็นวันอังคาร (7 ก.ค.) ประธานาธิบดี วูซิช บอกว่า มาตรการที่เข้มงวดขึ้น ในนั้นรวมถึงการล็อกดาวน์กรุงเบลเกรดในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะถูกบังคับใช้ สืบเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น
พวกฝ่ายค้านดาหน้ากันออกมาโจมตีรัฐบาลในทันที โดยบอกว่า ประชาชนไม่ควรที่ต้องมารับกรรมจากการล็อกดาวน์เมืองอีกครั้ง
หลังเสร็จสิ้นคำแถลงของประธานาธิบดี วูซิช ประชาชนหลายพันคนเริ่มรวมตัวกันบริเวณด้านหน้ารัฐสภา บริเวณจัตุรัสกลางของกรุงเบลเกรด จากนั้นตอนเวลา 22.00 น. ผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ สามารถบุกผ่านแนวกั้นของตำรวจ พังประตูเข้าไปในอาคารรัฐสภา แต่สุดท้ายแล้วตำรวจก็ผลักดันพวกเขากลับออกมาได้สำเร็จ
เซอร์เบีย ชาติที่มีประชากร 7 ล้านคน รายงานพบผผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 16,168 คน และเสียชีวิต 330 คน แต่จำนวนกำลังเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในวันอังคาร (7 ก.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 299 คน และเสียชีวิต 13 ราย
บรรดานักวิทยาการระบาดและคณะแพทย์เตือนว่า โรงพยาบาลต่างๆ กำลังเต็มความจุ และบุคลากรด้านการแพทย์อ่อนล้ากันอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม เซอร์เบียได้บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม พวกเขาเป็นหนึ่งในชาติแรกๆ ที่กลับมาเปิดเมืองและจัดการเลือกตั้งในวันที่ 21 มิถุนายน โดยระหว่างหาเสียงนั้น พรรคเซอร์เบียก้าวหน้า (SNS) พรรครัฐบาลของวูซิช ได้จัดเวทีปราศรัย โดยที่ผู้เข้าร่วมไม่สวมหน้ากากแต่อย่างใด
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงพรรคหลายคน ในนั้นรวมถึงที่ปรึกษาของประธานาธิบดี ถูกพบว่าติดเชื้อโควิด-19 หลังไม่สวมหน้ากาก ตอนที่ร่วมกันฉลองชัยชนะในศึกเลือกตั้งกันในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง
